Friday, November 25, 2011
เกาะเสม็ด อ.เมือง จ.ระยอง
ไปเกาะเสม็ด
เสร็จทุกราย
“ไปเกาะเสม็ด เสร็จทุกราย”
เสียงร่ำลือที่ชักนำวัยรุ่นมากมายให้ไปลองค้นหาความจริงจากหาดทรายขาวทะเลสวย
กับคนรู้ใจ แต่ที่แน่ๆ ไม่ว่าใครหากได้มาถึงเกาะเสม็ด ก็ต้องตกหลุมรักเกาะนี้ทุกคน
หาดทรายที่ยาวและสวยที่สุดด้วยทรายขาวกับน้ำทะเลใสแจ๋ว
ต้องยกให้ช่วงหาดทรายแก้วลงไปถึงอ่าวไผ่
แต่บรรยากาศจะคึกคักด้วยนักท่องเที่ยวและรีสอร์ตร้านอาหาร
รองลงมาคือช่วงหาดวงเดือนที่มีทิวทัศน์งามด้วยรูปโค้งเสี้ยวพระจันทร์
ลงไปถึงอ่าวเทียนที่มีปะการังน้ำตื้นให้ดำน้ำชม
ถ้ำเขาวง อ.แกลง จ.ระยอง
มหัศจรรย์เขาวงกตในป่าหินปูน
ภูเขาหินปูนสูงเด่นมองเห็นผาชัน
และหินเปลือยท่ามกลางป่าเขียวขจี
เป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเขาวงที่มีพันธุ์ไม้แปลกตาอย่าง จันทน์ผา สลัดได
พร้อมกับร่องลึกและลวดลายของหินปูน
ซึ่งโดนน้ำฝนกัดเซาะละลายหินปูนจนเป็นร่องเว้าและแหลมคม
แก่งหินเพิง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
สนุกตื่นเต้นกับการล่องแก่งกลางป่าใหญ่
แก่งหินเพิงเป็นแก่งหินใหญ่ที่ขวางลำน้ำใสใหญ่ทางชายขอบด้านตะวันตกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
จนทำให้สายน้ำที่ไหลผ่านเชี่ยวกรากท้าทายให้นักท่องเที่ยวผู้รักความตื่นเต้นเดินทางมาล่องแพยางผ่านเกาะแก่งกลางน้ำ
โดยเฉพาะในฤดูฝนที่มีน้ำมากและไหลเชี่ยวกว่าช่วงเวลาอื่น
ป่าชายเลนบ้านเปร็ดใน อ.เมือง จ.ตราด
ชมป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุด
ป่าชายเลนบ้านเปร็ดในนับว่าสมบูรณ์ที่สุดในภาคตะวันออกภายในอาณาเขตหนับหมื่นไร่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อเรียนรู้ธรรมชาติมหัศจรรย์อันทรงคุณค่าของป่าชายเลน
ตลอดระยะทาง 2 กม.
ของเส้นทางจนถึงชายฝั่งทะเลสัมผัสได้ถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติ
มีพันธุ์ไม้ชายเลนหลายสิบชนิดให้ศึกษา มีป้ายชื่อบอกชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นโกงกางใบเฃ็กพังกาหัวสุมดอกแดง ฝาดดอกขาว-ดอกแดง โปรงแดง ถั่วขาว
ตาตุ่มทะเล ตะบูนขาว ตะบูนดำ ฯลฯ
สังเกตความเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศในป่าชายเลนได้ทั้งเวลาน้ำขึ้นและน้ำลง
Thursday, November 24, 2011
พระจุฑาธุชราชฐาน อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
รื่นรมย์ในพระราชวังงามบนเกาะตากอากาศ
พระจุฑาธุชราชฐาน ได้ชื่อว่าเป็นพระราชวังตากอากาศ เพราะตั้งอยู่บนเกาะสีชังที่มีอากาศดี และอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์เสด็จมาอภิบาลพระราชโอรสอยู่เป็นแรมปี โดยระยะแรกทรงสร้างตึกขึ้นสามหลัง ในปี พ.ศ.2431 นามว่า “ตึกวัฒนา” “ตึกผ่องศรี” และ “ตึกอภิรมย์” เพื่อใช้เป็นที่พักฟื้นผู้ป่วย
ตลาดคลองสวน 100 ปี อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
ย้อนอดีตที่ตลาดเก่าริมคลองประเวศน์ฯ
ตลาดคลองสวนเป็นตลาดโบราณอายุยืนนานกว่า 100 ปีสมชื่อด้วยเป็นตลาดเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งคลองสวนหรือคลองประเวศน์บุรีรมย์ยังเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำจากฉะเชิงเทรามุ่งเข้าเมืองกรุง ทุกวันนี้ตลาดคลองสวนก็ยังเปิดค้าขายและเป็นแหล่งพบปะของคนท้องถิ่นที่ยังดำรงชีวิตเรียบง่าย อันเป็นเสน่ห์ให้ผู้คนสนใจมาเยือนตลาดที่ยังมีลมหายใจพื้นถิ่นแห่งนี้
Wednesday, November 23, 2011
พระนอน วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
พระนอนสีขาวองค์ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยตั้งโดดเด่นอยู่กลางแจ้ง พุทธลักษณะงดงาม พระพักตร์แย้มยิ้มดูมีเมตตา ก้มกราบพระแล้ว พลันระลึกได้ว่าพระนอนหรือพระพุทธรูปปางไสยาสน์เป็นอนุสติเตือนใจถึงการเสด็จปรินิพพานขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์แสดงให้เราตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ความไม่เที่ยงของสังขารที่แม้กระทั่งพระพุทธองค์ก็ยังเลี่ยงไม่พ้น
สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
สัมผัสขุนเขาและสายหมอก
อยากเที่ยวเมืองหนาวแต่ไม่อยากไปไกลถึงเมืองเหนือ ของแนะนำให้ไป “สวนผึ้ง” ซึ่งในฤดูหนาวมีอากาศหนาวเย็นหลายเดือน
ไม่ใช่สวนเลี้ยงผึ้ง แต่เป็นอำเภอหนึ่งที่มีภูมิทัศน์สวยงามท่ามกลางขุนเขาสลับซับซ้อนบริเวณชายแดนแถบตะวันตกของประเทศ สมัยก่อนเป็นแหล่งทำแร่ แต่ไม่นานมานี้ได้กลายเป็นแหล่งรวมของบูติกรีสอร์ตหลากรูปแบบ ซึ่งคู่รักคู่แต่งงานนิยมไปถ่ายภาพ หรือครอบครัวพาเด็กๆไปถ่ายรูปกับแกะในฟาร์ม
ป่าแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ยลทะเลหมอกงามใกล้กรุง
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นผืนป่าอนุรักษ์กว้างใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่นี่ไม่เพียงเป็นสวรรค์ของผู้รักธรรมชาติ แต่ยังได้รับความนิยมสูงสุดในการมาพักผ่อนแบบแค้มปิง เพื่อรอชมทะเลหมอกอันงดงามตระการตา
ป่าแก่งกระจานนับเป็นจุดชมทะเลหมอกในบรรยากาศคล้ายกับขุนเขาทางภาคเหนือซึ่งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ที่สุด ด้วยระยะทางไม่ถึง 200 ม. โดยต้องมานอนพักกางเต็นท์ที่บริเวณหน่วยฯ เขาพะเนินทุ่ง เมื่อถึงเวลาก่อนพระอาทิตย์ขึ้น นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปยังจุดชมทิวทัศน์บริเวณ กม.31 ภาพหุบเขากว้างที่มีทะเลหมอกแผ่คลุมไปทั่วจะปรากฏขึ้นตั้งแต่แสงเริ่มส่องรับอรุณจนกระทั่งสาย ทะเลหมอกจึงค่อยๆ จางหาย เผยให้เห็นผืนป่าทึบและเทือกเขาสลับซับซ้อนสุดสายตา บางครั้งอาจมีโอกาสเห็นนกกกหรือนกเงือกกรามช้างบินผ่านไปในหุบเขาด้วย
ด้วยความสมบูรณ์ของผืนป่าจึงมีผู้นิยมมาดูนก ดูผีเสื้อ หรือศึกษาพันธุ์ไม้โดยเฉพาะที่บริเวณจุดพักกางเต็นท์อีกแห่งคือหน่วยฯ บ้านกร่าง
ที่เที่ยวใกล้เคียงที่น่าไป
๐ทะเลสาบแก่งกระจาน อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เกิดจากเขื่อนดินที่สร้างกั้นแม่น้ำเพชรบุรี เป็นแหล่งพักผ่อนที่สวยงาม สามารถนั่งเรือเที่ยวชมเกาะแก่งกลางน้ำและทิวทัศน์โดยรอบได้ พักแรมได้ที่บ้านพักของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หรือกางเต็นท์ริมทะเลสาบ
ติดต่อกางเต็นท์พักแรมที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อนเดินทางขึ้นเขาไปยังหน่วยฯ บ้านกร่าง จากหน่วยฯ บ้านกร่างมีกำหนดเวลาขึ้นเขาลงเขาไปยังหน่วยฯ เขาพะเนินทุ่ง เพราะเส้นทางแคบและคดเคี้ยว
วัดหน้าพระเมรุ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
พระพุทธรูปทรงเครื่องงดงาม
พระประธานขนาดใหญ่ในอุโบสถหยุดทุกสายตาของผู้ที่เข้ามาสักการะ ด้วยพุทธลักษณะทรงเครื่องแบบกษัตริย์ สวมมงกุฎมีสร้อยสังวาลทับทรวง ใบหน้างดงามเปี่ยมเมตตา เป็นแบบพระราชนิยมในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
วัดหน้าพระเมรุเป็นวัดเดียวที่รอดพ้นจากการถูกเผาทำลายเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 จึงรักษางานศิลปกรรมสมัยอยุธยาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะพระพุทธรูปทรงเครื่องและอุโบสถขนาดใหญ่ถึงเก้าห้อง กว้างขวางกว่าวัดอื่นในพระนครศรีอยุธยา ไม่มีการเจาะหน้าต่าง มีเพียงช่องลูกมะหวดให้แสงและอากาศผ่าน ซึ่งเป็นงานช่างโบราณที่พบตามโบราณสถานสมัยสุโขทัย
ด้านข้างอุโบสถคือวิหารน้อยหรือวิหารเขียน ความน่าสนใจอยู่ที่พระคันธารราษฎร์ ที่ประดิษฐานอยู่ภายใน เป็นพระพุทธรูปศิลาสมัยทวารวดี ปางปฐมเทศนาประทับห้อยพระบาท ซึ่งปรากฏในโลกเพียงหกองค์เท่านั้น
ที่เที่ยวใกล้เคียงที่น่าไป
๐นั่งเรือชมกรุงเก่า เช่าเหมาเรือได้ที่ท่าเรือหน้าพระราชวังจันทรเกษมและท่าเรือวัดพนัญเชิง ล่องไปตามแม่น้ำที่ล้อมรอบเกาะอยุธยา แวะชมวัดไชยวัฒนาราม วัดพนัญเชิง และวัดพุทไธสวรรค์ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
โรงแรม ที่พักใน พระนครศรีอยุธยา
ทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
นอนบ้านพักทาร์ซานกลางสายหมอก
ภาพยอดเขาสูงสลับซับซ้อนที่เต็มไปด้วยไอน้ำเมฆหมอกหนา บางคราแสงแดดส่องผ่านก้อนเมฆลงมาต้องหน้าผาหินสีแดง บางคราหมอกลงหนาทึบจนแทบไม่เห็นเส้นทาง ทั้งอากาศหนาวเย็นจัด เป็นเสน่ห์ที่คนรักธรรมชาติหลงใหลในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
โดยเฉพาะจุดเด่นของการพักแรมที่นี่คือบ้านทาร์ซาน บ้านพักแรมที่สร้างบนต้นไม้ซึ่งหลายคนอยากไปนอนเล่นในยามท้องฟ้าเปิดจะแลเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนสุดสายตา และทะเลสาบของเขื่อนเขาแหลม นอกจากนี้ยังมีบริเวณลานกางเต็นท์เนินกูดดอยที่มองเห็นแนวเขาสูงชันนาม “เขาช้างเผือก” อยู่เบื้องหน้า
หากใครชอบการเดินขึ้นเขาแบบสมบุกสมบัน “ยอดเขาช้างเผือก” ก็เป็นเป้าหมายที่มีผู้นิยมเดินขึ้นไปสัมผัสเมฆหมอก เพราะสูงถึง 1,249 ม. ใช้เวลาค่อนวันก็จะถึงจุดค้างแรม ก่อนตื่นเช้าเพื่อชมทิวทัศน์ตระการตารอบตัวแบบ 360 องศา
ติดต่อขึ้นเขาช้างเผือกได้ที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โทร.08-1382-0359 มีลูกหาบให้บริการ
ที่เที่ยวใกล้เคียงที่น่าไป
๐บ้านอีต่อง ชุมชนเล็กๆ ที่อยู่สุดชายแดน เคยรุ่งเรืองมาจากเหมืองแร่ ด้วยอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดปี จึงมีผู้นิยมไปเที่ยวมาก และยังมีจุดชมทิวทัศน์ชายแดนไทย-พม่าที่เนินเสาธงด้วย
โรงแรม ที่พักใน กาญจนบุรี
ภูสอยดาว อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์
ชมสายหมอกและดงสน
ภูสอยดาวตั้งอยู่บนแนวพรมแดนไทย-ลาว ในเขตอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว นับเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของผู้รักธรรมชาติที่ชื่นชอบความงามของป่าสนสามใบและทุ่งหญ้าผืนใหญ่บนที่ราบหลายพันไร่บนสันเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีดอกไม้ป่านานาชนิดผลิดอกเบ่งบานเต็มทุ่งลานสน
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
ชมพระปรางค์มรดกโลก
ณ ตำแหน่งกลางเมืองเชลียงหรือศรีสัชนาลัยในปัจจุบัน อันมีแม่น้ำยมโอบล้อมอยู่สามด้าน เป็นที่ตั้งของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง ที่เชื่อกันว่ามีมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 18 โดยมีหลักฐานคือ ซุ้มประตูทางเข้ารูปปูนปั้นพระโพธิสัตว์สี่ทิศ ซึ่งได้รับอิทธิพลศิลปะขอมแบบบายน
โบราณวัตถุโบราณสถานภายในวัดผ่านการบูรณะมาหลายยุคหลายสมัย ดังวิหารด้านหน้าพระปรางค์และองค์ปรางค์ประธานที่เป็นศิลปะสมัยอยุธยา เป็นต้น
สิ่งน่าสนใจในวัดมีมากมาย ค่อยๆ ชมไปทีละส่วนก็จะเพลิดเพลินไม่น้อย ลองเดินหาลายปูนปั้นรูปนางอัปสรร่ายรำกับตัวหน้ากาลแถวซุ้มประตูทางเข้า เสาตามไฟที่มีลวดลายต่างกัน และที่พลาดไม่ได้คือ พระพุทธรูปปางลีลาอันอ่อนช้อยงดงามที่แสดงถึงฝีมือวิจิตรบรรจงของช่างที่สรรค์สร้างพระพุทธปฏิมาองค์นี้ขึ้น
ในยามเช้า แสงแดดสาดต้ององค์พระปรางค์ และพระพุทธรูปปางลีลา ทำให้วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียงดูโดดเด่นเหมาะแก่การถ่ายภาพ
น่าแวะ
๐อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ชมโบราณสถานมากมาย เช่น วัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว วัดนางพญา วัดชมชื่น ซึ่งพบโครงกระดูกมนุษย์ที่มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 9 เป็นต้น
โรงแรม ที่พักใน สุโขทัย
ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง
สนุกกับช้างแสนรู้
เสียงปรบมือดังขึ้นทุกครั้งที่บรรดาช้างตัวโตน่ารักแสนรู้ทำท่าทางพร้อมเพรียงกัน ตั้งแต่การเข้าแถว ถอนสายบัวใช้งวงเก็บของ และอื่นๆ อีกมาก รวมไปถึงแสดงการทำงานลากซุง ยกซุง ซึ่งเคยเป็นอาชีพหลักของช้างก่อนที่เดี๋ยวนี้จะเปลี่ยนมาเป็นนักแสดง
ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยเป็นแหล่งรวมความรู้เรื่องช้างและการอนุรักษ์ช้างไทยภายในพื้นที่ธรรมชาติกว้างขวาง คนสำคัญที่คอยเลี้ยงและสอนช้าง คือเหล่าควาญช้างที่สืบทอดวิชาเลี้ยงช้างมาแต่โบราณ ในการแสดงของช้าง นอกจากเราจะเห็นความฉลาดของช้างแล้ว ยังสัมผัสได้ถึงความผูกพันใกล้ชิดของช้างกับควาญช้างที่น่าประทับใจด้วย
ปิดท้ายการแสดงด้วยการวาดภาพจากฝีมือ(งวง) ช้าง ที่ถือเป็นหนึ่งเดียวในโลก อย่าลืมซื้อภาพวาดเก็บเป็นที่ระลึกกว่าคุณก็เป็นคนหนึ่งที่รักช้างไทย
การแสดงช้าง จันทร์-ศุกร์ วันละสองรอบ 10.00 น. และ 11.00 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุด เพิ่มรอบ 13.30 น.
ที่เที่ยวใกล้เคียงที่น่าไป
๐สวนป่าทุ่งเกวียน แวะถ่ายรูปกับสวนดอกไม้และพรรณไม้งามตระการตาโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว
๐นั่งรถม้าชมเมือง นั่งรถม้าแบบโบราณวิ่งรอบเมืองลำปาง ให้ความรู้สึกย้อยยุคกับเสียงฝีเท้าม้าดังกุบกับ ควรนั่งตอนเย็นๆ หรือหัวค่ำบรรยากาศจะกำลังดี
ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน
ดอกไม้งามสะพรั่งทั้งขุนเขา
เมื่อย่างเข้าฤดูหนาว ดอกบัวตอบบนดอยแม่อูคอจะบานสะพรั่งอวดดอกสวยปกคลุมพื้นที่นับพันไร่ ทั่วทั้งดอยจึงเหลืองอร่ามตระการตาน่าชม จนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จ.แม่ฮ่องสอน
ในอดีตต้นบัวตองเคยเป็นวัชพืชที่ชาวเขาพยายามตัดทิ้ง ทว่าภายหลังดอกสี่เหลืองสดใสของบัวตองที่เบ่งบานปกคลุมภูเขาทั้งลูกกลับเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น จนผู้คนหลั่งไหลเดินทางมาชมความงามในช่วงดอกบัวตองบานระหว่างเดือน พ.ย.-ธ.ค. ของทุกปี พร้อมกับสัมผัสอากาศหนาวเย็นบนดอยสูง
ทางวนอุทยานฯ ทุ่งบัวตองได้สร้างจุดชมทิวทัศน์ทุ่งบัวตองจากที่สูงสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นจะสวยงามเป็นพิเศษ บางวันอาจมีทะเลหมอกให้ชมในหุบเขาด้วย
ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคออยู่ห่างจาก อ.ขุนยวม 27 กม. มีทางรถยนต์ลาดยางอย่างดี
บนดอยแม่อูคอมีที่พักของเอกชนและพื้นที่กางเต็นท์ให้เลือกหลายแห่งพร้อมทั้งเต็นท์ให้เช่าและมีอาหารบริการ
ที่เที่ยวใกล้เคียงที่น่าไป
๐น้ำตกแม่สุรินทร์ น้ำตกชั้นเดียวที่สวยงามมากเพราะสูงถึง 80 ม. สายน้ำตกจากหน้าผาสูงชันเป็นทางยาวลงสู่หุบเขาเบื้องล่าง น้ำตกแม่สุรินทร์อยู่เลยทุ่งบัวตองไปตามถนนดินราว 11 กม
โรงแรม ที่พักใน แม่ฮ่องสอน
เสาดินนาน้อย อ.นาน้อย จ.น่าน
ประติมากรรมธรรมชาติ
ยอดเสาดินอันเว้าแหว่งพุ่งชะลูด บ้างเป็นแผ่นหน้า ยามต้องแสงอรุณ ก่อให้เกิดรูปทรงและสีสันอันแปลกตา ดังประติมากรรมที่ธรรมชาติสร้างสรรค์
เสาดินนาน้อย เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากชั้นตะกอนดินอายุนับล้านปีที่โดนสายฝนและลมแรงค่อยๆ กัดกร่อน มีลักษณะเป็นหุบผาและแท่งดินผสมหินลูกรังสี่แดงปนส้ม รูปทรงเป็นแท่ง มนกลม หรือหลืบแผ่นผาแล้วแต่จะจินตนาการ กระจายอยู่ในพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ แวดล้อมด้วยป่าเต็งรัง หากไปถูกจังหวะในช่วงฤดูหนาวที่ทองฟ้าสดใส จะได้ชมภาพอันงดงามดังภาพวาดของจิตรกรเอก ที่มีเสาดินโดดเด่นตัดฟ้าคราม และมีสีสันใบไม้เปลี่ยนสีของป่าเต็งรังเป็นฉากหลัง
ห่างจากเสาดินนาน้อยประมาณ 300 ม. มีพื้นที่เป็นแอ่งลึก เรียกว่า คอกเสือ โดยต้องเดินลงไปในหุบด้านล่าง มีบันไดลงอย่างดี บริเวณนั้นจะมีลักษณะเป็นหลืบม่าน เป็นร่องรอยยาว มีความงดงามเฉพาะตัวเช่นกัน
ที่เที่ยวใกล้เคียงที่น่าไป
๐ดอยเสมอดาว อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะยามพระอาทิตย์ขึ้น แสงแดดจะส่องกระทบแม่น้ำน่าน หากโชคดีจะได้เห็นทะเลหมอก
๐ผาชู้ หน้าผาสูงชันตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่าน สูง 680 ม. บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติศรีน่านจุดนี้สามารถชมผืนป่าแน่นทึบสลับซับซ้อนไปจนจดประเทศลาว
ไปเที่ยวเสาดินแล้ว สามารถไปพักค้างแรมบนดอยเสมอดาว หรือบริเวณอุทยานแห่งชาติศรีน่าน จองบ้านพักได้ที่ www.dnp.go.th
ดอยวาว อ.ท่าวังผา จ.น่าน
ในอ้อมกอดของขุนเขา
จะมีที่ไหนในภาคเหนือที่ลานกางเต็นท์อยู่ในโอบล้อมของแปลงไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวอันสวยงาม และเมื่อตื่นนอนยามเช้า ออกจากเต็นท์มาก็สามารถชมพระอาทิตย์สีส้มแดงขึ้นจากขอบฟ้า รวมถึงสายหมอกหนาเป็นผืนแผ่นลอยระอยู่ตามไหล่เขาสลับซับซ้อน
เมื่อแสงแรงกล้า สีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่งก็งามพราวพร้อมกันบนยอดเขาทั้งยังมีนกสีสันสวยงาม เช่น นกกินปลีหางยาวคอสีฟ้า นกเขียวก้านตองท้องสีส้ม แวะเวียนเข้ามากินน้ำหวาน เส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดดอยวาว ระยะทาง 1,674 ม. จะผ่านป่าดิบเขาอันร่มเย็น ให้คุณได้ใกล้ชิดธรรมชาติและชมนกป่าสีสวย
ยามเย็น มองออกไปทางทิศตะวันตกก่อนอาทิตย์จะลับขอบฟ้า จะเห็นเขาสามยอดที่มีรูปลักษณ์พิเศษ ขวาสุดรูปร่างคล้ายช้าง คือ ดอยช้าง ตรงกลางคล้ายวัว คือ ดอยวัวและซ้ายสุดคือดอยผาจิ ในเดือนพฤศจิกายน พระอาทิตย์จะตกระหว่างดอยวัวกับดอยผาจิได้พอดีอย่างน่าอัศจรรย์ ยิ่งเมื่อความมืดมาเยือนในคืนฟ้าโปร่ง จะเห็นดวงดาวนับหมื่นแสนดารดาษเต็มผืนฟ้าอย่างสุดแสนโรแมนติก
ลองไปสักครั้ง แล้วคุณจะหลงรักที่นี่ดอยวาว อุทยานแห่งชาตินันทบุรี
ที่เที่ยวใกล้เคียงที่น่าไป
๐วัดหนองบัว เป็นวัดของชาวไทยลื้อบ้านหนองบัวโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณภายในจิตรกรรมฝาผนังสวยงาม
ที่พักมีสองแห่งคือ ลานกางเต็นท์หน่วยจัดการต้นน้ำน้ำค้าง อยู่ตรงจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก มีบ้านพักจองล่วงหน้าได้ที่ www.dnp.go.th
Tuesday, November 22, 2011
ดอยแม่ตะมาน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
ขึ้นดอยสูงชมซากุระ
หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวรับลมหนาวที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุดของ จ.เชียงใหม่ ด้วยความงามของทิวทัศน์ขุนเขาสูงตระหง่าน ทะเลหมอกหนาทึบในหุบดอย และเป็นจุดชมทิวทัศน์ดอยเชียงดาวที่สวยที่สุด
ดอยวาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
ชิมชา-ชมทะเลหมอกหมู่บ้านจีนฮ่อ
ดอยวาวีเป็นชุมชนใหญ่ของชาวจีนฮ่อ กองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งหลักเป็นฐานราว 50 ปีแล้ว ยึดอาชีพปลูกชาและผลไม้ท่ามกลางบรรยากาศอันสงบเงียบและทิวทัศน์งามของดอยสูงเช่นเดียวกับชุมชนดอยแม่สลอง
Friday, November 4, 2011
Tuesday, October 18, 2011
ทริปน่าลอง.... สำหรับนักผจญภัย
เที่ยวถ้ำลำคลองงู
อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
ห้วยลำคลองงูยาวหลายสิบกิโลเมตร ไหลผ่านภูเขาหินปูนที่เรียงตัวกันกระจัดกระจาย ภายใสมีเถื่อนถ้ำที่ยังคงความบริสุทธิ์ของหินงอกหินย้อย และมีความใหญ่โตน่าอัศจรรย์ใจในระดับโลกถึงสามถ้ำ ควรมาเที่ยวในช่วงปลายฤดูหนาวเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม
เริ่มจากถ้ำน้ำตก ถ้ำขนาดใหญ่ยาวถึง 2,710 เมตร ซึ่งต้องลุยน้ำเข้าไปในโถงถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยรูปร่างต่างๆ ถ้ำถัดมาคือ ถ้ำนกนางแอ่น เมื่อเดินลุยน้ำไป 1 กิโลเมตรจะพบมีหินยอกหินย้อยรูปร่างเหมือนถ้วยฟุตบอลโลกมีผลึกแคลไซต์งอกเป็นรูปร่างต่างๆ ซึ่งเมื่อโดนแสงจะส่งประกายระยิบระยับน่าตื่นตาตื่นใจ
ถ้ำสุดท้ายคือถ้ำเสาหิน ต้องลุยน้ำลอยคอว่ายเข้าไปตามลำคลองงูกว่า 1 กิโลเมตรภายในเป็นห้องโถงโล่ง เพดานสูงถึง 50 เมตร มีเสาหินปูนตั้งตระหง่านสูงถึง 62.5 เมตร ถือว่ามีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในโลก เกิดจากหินงอกหินย้อยมาบรรจบกัน โดยต้องใช้เวลาก่อตัวนานนับพันปี
อุทยานแห่งชาติลำคลองงูมีบ้านพัก ที่กางเต็นท์ และร้านอาหาร รวมถึงเจ้าหน้าที่นำทางพร้อมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ให้บริการ ติดต่อที่ ตู้ ปณ.4 ปทจ.ทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 71180 โทร.08-6175-4786
ล่องเรือดูโลมา
อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
ฝูงโลมาห้าหกตัวที่ดำผุดดำว่ายไล่ต้อนเหยื่ออยู่บริเวณปากแม่น้ำบางปะกง สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้คนบนเรือที่ยกกล้องในมือขั้นถ่ายภาพหรือชี้ชวนกันดูโลมาที่บ้างก็โผล่พ้นน้ำขึ้นมาทั้งตัว บ้างก็มองเห็นเพียงแค่ครีบหางให้ลุ้นระทึกอยู่ในที
ด้วยความที่ปากแม่น้ำบางปะกงเป็นจุดบรรจบของน้ำจืดกับน้ำเค็ม และรายรอบด้วยป่าชายเลน ทำให้มีแพลงก์ตอนเป็นอาหารของปลาหลายชนิด โดยเฉพาะปลาดุกทะเลที่เป็นอาหารโปรดของโลมา เราจึงพบเห็นโลมาได้ตลอดฤดูหนาว โดยมีถึงสามชนิด คือ โลมาอิรวดีที่พบเห็นได้ง่ายและบ่อยที่สุด ตัวสีเทาเข้มยาวกว่า 2 เมตร โลมาหัวบาตรหลังเรียบ ตัวเล็กเพียงเมตรกว่าๆ และไม่มีครีบหลัง และโลมาเผือกหลังโหนกที่ตัวโตถึง 3 เมตร ลำตัวสีน้ำตาลเหลืองไปจนถึงขาวอบชมพู
อยากเห็นโลมาเหล่านี้ต้องมาเที่ยวชมในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ โดยเฉพาะในช่วงน้ำตายที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูงและค่อนข้างคงที่ ใช้เวลาล่องเรือชมประมาณ 2-3 ชั่วโมง ถ้าเลือกได้ควรไปชมในวันธรรมดาเพราะมีโอกาสเห็นโลมาได้นานกว่าช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ที่เรือวิ่งสวนกันไปมาเป็นจำนวนมาก จนทำให้โลมาตื่นกลัวไม่ยอมโชว์ตัวนานๆ
ก่อนเดินทางมาชมโลมา ควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลตำบลท่าข้าม(โทร.0-3857-3411-2) จุดบริการเรือมีสองแห่ง คือ ท่าเทียบเรือเทศบาลตำบลท่าข้าม หมู่ที่ 1 บ้านหัวแหลม(ติดต่อนายปราโมช สุวรรณ์วงศ์ โทร.08-7128-4089)และท่าเทียบเรือเทศบาลตำบลท่าข้าม หมู่ที่ 8 โรงเรียนคลองตำหรุ(เดิม) (ติดต่อนายอดุลย์ ศุภรัตน์ โทร.08-6837-6628
นั่งช้างท่องป่า
อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
โขลงช้างหลายสิบเชือกที่ยืนเรียงรายอยู่ริมลำน้ำสร้างความตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยวที่ต่างกรูเข้าไปใกล้ๆ บางคนยืนถ่ายรูปคู่กับช้างหลายสิบรูปไม่ยอมหยุด ทั้งๆ ที่อีกสักครู่ก็จะได้ขึ้นนั่งหลังช้างไปเที่ยวในป่าใกล้ๆ นี้แล้ว
แถบ อ.แม่ริม แม่แตง และเชียงดาว มีปางช้างอยู่หลายแห่ง เช่นปางช้างแม่แตง ปางช้างแม่สา ปางช้างแม่ตะมาน ปางช้างเชียงดาว เป็นต้น ทุกวันจะจัดแสดงความสามารถของช้างไทยนับสิบเชือกให้ชมกันเป็นที่สนุกสาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นบาสเกตบอล แสดงการชักลากไม้ โดยเฉพาะการวาดรูปที่ช้างไทยบางเชือกได้เป็นศิลปินดังระดับโลกเพราะภาพข่าวไปปรากฏตามสื่อต่างๆ ทั่วโลก
หลังชมการแสดงจบแล้วไม่ควรพลาดการขึ้นนั่งช้างพาเดินข้ามลำห้วยไต่เนินเขาชมธรรมชาติในป่าอันร่มรื่นระยะทางไม่ไกลนัก ใช้เวลาราว 1-2 ชั่วโมง กลับมาแล้วยังอยากใกล้ชิดกับช้างอีกก็ไปร่วมกับควาญช้างให้อาหารหรืออาบน้ำช้างด้วยก็ได้
บอกได้เลยว่ากิจกรรมนั่งช้างจะสร้างความประทับใจให้ทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นเยาว์ไม่น้อยหน้ากันทีเดียว
ปางช้างส่วนใหญ่มีร้านอาหาร ปางช้างแม่แตง โทร.0-5320-6047 ปางช้างแม่ตะมาน โทร.0-5329-7060
ขี่จักรยานเสือภูเขาลุยสวน
อ.เมือง จ.นครนายก
เมื่อเท้าเริ่มถีบบันไดของจักรยาน ล้อสองล้อก็เริ่มหมุนวน และค่อยๆ วิ่งเลาะขอบทางเรียบเข้าสู่ร่มเงาไม้ใหญ่สลับกับท้องทุ่งที่สายลมเย็นพัดโชยพากลิ่นหอมของดอกไม้ กลิ่นดิน กลิ่นน้ำจากแม่น้ำนครนายกโชยมาให้ชื่นใจ
ในนครนายกมีเส้นทางสำหรับขี่จักรยานหลายสิบเส้นทางทั้งระยะทางสั้นและยาว ทางลาดเรียบเลาะตามเรือสวน และทางลูกรังลุยธารน้ำในชมธรรมชาติในราวป่า
เส้นทางที่นิยมกันมากคือ เส้นทางวังตะไคร้-วังยาว ระยะทาง 22 กิโลเมตร เริ่มต้นบริเวณเชิงสะพานวังตะไคร้ หน้าร้านลุงเหลี่ยม มุ่งตรงไปทางน้ำตกนางรอง เข้าถนนเล็กๆ ไปวัดท่าด่าน หุบเมย เมื่อสุดถนนเลียบคลองส่งน้ำให้เลี้ยวขวาเขาถนนลาดยางเล็กๆ ช่วงนี้จะเป็นสวนผลไม้สลับกับท้องทุ่งสวยงาม ขี่ไปจนถึงสี่แยกบ้านวังยาว ถ้ายังไม่เหนื่อยเลี้ยวซ้ายไปตามทางผ่านวัดคีรีวัน แล้ววนกลับมายังจุดเริ่มต้น
หากชอบผจญภัย จากสี่แยกบ้านวังยาวให้ขี่ตรงไปตามถนนลูกรังยาว 1 กิโลเมตร จนพบแม่น้ำนครนายก ช่วงฤดูหนาวน้ำลึกไม่เกินเข่า ขี่ลุยน้ำไปได้เลย ทางจะขรุขระให้อารมณ์ของการขี่เสือภูเขา
เส้นทางนี้จึงเรียกได้ว่าครบเครื่อง ขี่สนุกเพลิดเพลินกันได้ทั้งวันเลยที่เดียว
มีร้านให้เช่าจักรยาน รวมทั้งล่องแก่งหลายแห่ง แนะนำอดิเรกคายักมาสเตอร์ ใกล้ครัววังมะนาว(โทร.0-3739-3518) สาริการแอดเวนเจอร์พอยนท์(โทร.0-3732-8432) แพ แคนู แคมป์(โทร.0-3738-5042)
ล่องเรือดูนกบึงบอระเพ็ด
อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์
บึงบอระเพ็ดเป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์นับร้อยชนิด โดยเฉพาะนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร ที่พบเพียงแห่งเดียวในโลก
ทุกปีเมื่อลมหนาวมาเยือนประเทศไทย ฝูงนกอพยพที่บินหนีหนาวจากแดนไกลก็จะมาพึ่งพิงบึงน้ำแห่งนี้เป็นแหล่งอาศัย ด้วยสภาพพื้นที่รอบบึงที่มีพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งกก อ้อ พงแขม ในบึงน้ำมีทั้งบัวบา สันตะวา สาหร่ายต่างๆ ทำให้มีปลาชุกชุม เป็นอาหารของนกอพยพ โดยเฉพาะฝูงนกเป็ดน้ำนับหมื่นตัวที่อพยพมาพักพิงอาศัย หลายชนิดใกล้สูญพันธุ์ เช่น นกกระทุง นกช้อนหอยดำเหลือบ นอกจากนี้ยังมีนกน้ำประจำถิ่นที่มีสีสันสวยงามน่าชม ไม่ว่าจะเป็นนกอัญชัญคิ้วขาว นกอีแจวนางยาว นกกระเต็นอกขาว รวมไปถึงเหยี่ยวหลายชนิดที่มาโฉบกินปลา
ฤดูกาลนี้จึงเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการดูนกน้ำที่บึงบอระเพ็ดและยิ่งถ้าได้ล่องเรือชมทุ่งดอกบัวสายสีชมพูบานสะพรั่งเต็มท้องน้ำ พร้อมกับสายหมอกนวลในยามเช้า หรือยามเย็นที่พระอาทิตย์ดวงกลมโตสีส้มแดงกำลังจะตกลับขอบฟ้า ก็สวยจนแทบจะลืมหายใจเลยทีเดียว
มีเรือบริการอยู่ที่บริเวณอุทยานนกน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด (โทร.08-1786-4330)หรือที่ศูนย์พัฒนาประมงน้ำจืด
ล่องแก่งลำน้ำว้า
อ.แม่จริม จ.น่าน
ท่ามกลางสายน้ำสีเงินทอดยาวคดโค้งผ่านผืนป่าใหญ่ที่กำลังผลัดใบเปลี่ยนสีจากเขียวเข้มเป็นเหลือง ส้ม แดงเจิดจ้า เรือยางสีสดหลายสิบลำล่องผ่านแก่งใหญ่น้อยในสายน้ำว้า ผู้คนในเรือส่งเสียงร้องตื่นเต้นดังไปไกลหลายคุ้งน้ำ
ลำน้ำว้าเป็นสายน้ำเล็กๆ ที่มีต้นกำเนิดจากทิวเขาหลวงพระบางชายแดนไทย-ลาว ไหลเลาะผ่านแนวป่าเขาเขียวขจี มีแก่งหินและวังน้ำอยู่หลายสิบแหง จึงมีผู้นิยมมาล่องแก่งกันเป็นจำนวนมาก โดยมีสองเส้นทาง คือ ลำน้ำว้าตอนกลาง สำหรับมือเก๋าที่ต้องคัดพายสู้กับสายน้ำถึง 3 วัน 2 คืน ระยะทางยาวกว่า 80 กิโลเมตร แต่ที่นิยมกันมากกว่าคือ ลำน้ำว้าตอนล่าง เป็นช่วงไหลผ่านอุทยานแห่งชาติแม่จริม ระยะทางยาวเพียง 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงก็ล่องผ่าน มีแก่งเล็กๆ สามสี่แก่งให้ลองฝีผายก่อนลำน้ำจะแคบเข้าผ่านแก่งหลวงที่คดโค้ง บางช่วงลำธารลดระดับลงคล้ายน้ำตกเล็กๆ ยาวถึง 800 เมตร ให้หัวใจได้เต้นระทึก ก่อนจะผ่อนคลายแต่ท้าทายกับแก่งสาลี แก่งต้นไทร แก่งสวนหิน ซึ่งมีลักษณะเป็นแก่งหิน และสายน้ำแตกต่างกันออกไป สร้างความตื่นเต้นระทึกใจให้ลืมไม่ลงเลยทีเดียว
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการล่องแก่งลำน้ำว้าประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม
มีบริษัททัวร์หลายแห่งให้บริการลองแก่งด้วยแพยางลำน้ำว้า มีให้บริการติดต่อได้ทั้งที่ อ.เมือง และ อ.แม่จริม แนะนำน่านทัวริ่ง(โทร.08-1961-7711)
เที่ยวถ้ำปางมะผ้า
อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน
ปางมะผ้า อำเภอเล็กๆ ใน จ.แม่ฮ่องสอน โด่งดังไปทั่วโลกด้วยเถื่อนถ้ำนับร้อยแห่ง บางแห่งเป็นถ้ำลึกยาวที่สุดในเอเชีย บางแห่งค้นพบโครงกระดูกและโลงของมนุษย์โบราณ บางแห่งกว้างใหญ่จนสามารถล่องแพภายในถ้ำได้ นักผจญภัยผู้นิยมการเที่ยวถ้ำจากทุกมุมโลกจึงพากันเดินทางมาที่นี่
ในบรรดาถ้ำที่ยังบริสุทธิ์จำนวนมาก มีถ้ำเพียงไม่กี่แห่งที่ได้พัฒนาและจัดการให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยถ้ำที่ได้รับความนิยมมากมีสองแห่ง คือ ถ้ำลอดและถ้ำแม่ละนา ถ้ำลอดเป็นถ้ำขนาดใหญ่ซึ่งมีลำน้ำลางไหลผ่าน สามารถล่องแถไม้ไผ่เข้าไปได้ หรือเดินเข้าไปในถ้ำระยะทางราว 500 เมตร จะพบถ้ำใหญ่สามถ้ำ คือ ถ้ำเสาหิน ที่มีเสาหินสูงใหญ่หลายต้น ถ้ำตุ๊กตา มีหินงอกเป็นปุ่มปมคล้ายตุ๊กตา และถ้ำผีแมน มีโลงไม้ใหญ่ สันนิษฐานว่าเป็นโลงของมนุษย์โบราณ
ส่วนถ้ำแม่ละนายาวถึง 12 กิโลเมตร ยาวที่สุดในเอเชีย แต่เพื่อความปลอดภัยจึงได้กำหนดเส้นทางเที่ยวถ้ำไว้เพียง 2.5 กิโลเมตร เพราะต้องเดินลุยลำน้ำไปตลอด เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการผจญภัย ภายในถ้ำมืดสนิท ต้องใช้ไฟฉายความแรงสูง เส้นทางจะผ่านโขดหินใหญ่ หินงอกหินย้อยอันงดงามไปจนถึงอ่างน้ำขนาดใหญ่ภายในถ้ำ
๐ควรเที่ยวเป็นกลุ่มประมาณ 5-10 คน
๐ทุกคนควรมีอุปกรณ์สร้างแสงสว่างประจำตัว ได้แก่ หมวกนิรภัยที่มีดวงไฟติดหน้าหมวก ไฟฉายพร้อมถ่านไฟฉายและหลอดสำรอง เทียนและไฟแช็ก เก็บไว้ในถุงพลาสติกที่ผนึกกันน้ำไว้อย่างดี
๐ใส่เสื้อผ้าหนาๆ กันหินบาด และสวมรองเท้าที่แข็งแรงทนทาน
อย่าลองปีนป่ายหน้าผาที่อันตรายและบุกเข้าไปในที่ลำบาก
การเข้าชมถ้ำลอดต้องติดต่อที่สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าถ้ำน้ำลอด(โทร.0-5361-7218)ส่วนถ้ำแม่ละนา ติดต่อศูนย์บริการเที่ยวถ้ำบ้านแม่ละนา (โทร.0-5361-9028)
ล่องแก่งลำน้ำเข็ก
อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
แพยางหลายสิบลำและหลากสี ทั้งน้ำเงินเข้ม สดส้มชมพูเจิดจ้า ลอยตัวรายเรียงอยู่ริมลำน้ำ บนฝั่งนักท่องเที่ยวในชุดสวมหมวกและเสื้อชูชีพตั้งใจฟังคำอธิบายการล่องแก่ง ก่อนจะร่วมผจญภัยไปกลางสายน้ำขุ่นข้นที่กระทบแก่งเป็นฟองขาวคล้ายน้ำเดือดพล่าน
ลำน้ำเข็กหรือแม่น้ำวังทอง เกิดจากการไหลมารวมกันของคลองเข็กน้อยและคลองเข็กใหญ่ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ มีความยาวนับร้อยกิโลเมตรแต่ช่วงลำน้ำที่นิยมล่องแพบริเวณบ้านทรัพย์ไพรวัลย์นั้นยาวไม่ถึง 10 กิโลเมตรใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือประมาณเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน
ทางช่วงแรกเป็นลำน้ำนิ่งก่อนเข้าสู่แก่งเล็ก ๆ สามสี่แก่งเป็นการลองเชิง จากนั้นกระแสน้ำจะไหลรุนแรงผ่านแก่งยาง แก่งรัชมังคลาและแก่งซาง ซึ่งเหมือนน้ำตกต่างระดับกันสี่ชั้น ทำให้เรือยางโยนตัวมุดน้ำก่อนจะโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง สร้างความตื่นเต้นให้กับนักล่องเรือ แล้วจึงเข้าสู่แก่งนางคอยที่ถือเป็นไฮไลต์ ด้วยเป็นน้ำตกสูงกว่า 2 เมตร ทางช่วงสุดท้ายปล่อยให้นักผจญภัยผ่อนคลายไปกับความคดโค้งของแก่งยาว
ตลอดระยะทางซึ่งมีทั้งตื่นเต้น หวาดเสียว และโล่งใจเมื่อผ่านพิชิตมาได้จะประทับเป็นความทรงจำที่หลายคนอยากหวนกลับมาอีก
ดูนกอพยพที่แหลมผักเบี้ย
อ.เมือง จ.เพชรบุรี
เมื่อยามลมหนาวแรกเริ่มพัดมาจากเมืองจีน ฝูงนกอพยพหลายร้อยชนิด นับพันนับหมื่นตัวจะบินล่องใต้เป็นระยะทางไกลหลายพันกิโลเมตร เพื่อย้ายถิ่นหากินและแหล่งอาศัยโดยมีจุดแวะพักสำคัญที่บริเวณอ่าวไทยตอนใน โดยเฉพาะตามนาเกลือริมชายฝั่งตั้งแต่แถบ อ.บ้านแหลม มาจนถึงแหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี
แนะนำให้นั่งเรือจากคลองอีแอด ใกล้แหลมผักเบี้ย ล่องไปตามคลองที่สองฝั่งเต็มไปด้วยต้นแสมและต้นโกงกาง อาจพบนกกระเต็นสีฟ้าสด นกยางสีขาว ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็จะออกถึงทะเล ในยามน้ำลงที่ปลายแหลมผักเบี้ยจะมีนกหลากชนิด ทั้งนกทะเลอย่างนกนางนวล นกหัวโตมลายู ซึ่งล้วนแล้วแต่มีรูปร่างและสีสันที่แตกต่างกันออกไป โชคดีอาจพบนกหายากระดับโลก เช่น นกชายเลนปากช้อน นกลอยทะเลคอแดง เป็นรางวัลสำหรับผู้มาเยือน
ควรเตรียมอาหารกลางวันไปด้วยจะได้อยู่ชมนกที่กลางสันดอนทรายของแหลมผักเบี้ยไปจนถึงยามเย็นเพื่อชมความงดงามยามพระอาทิตย์ตกน้ำเป็นของแถม
จุดลงเรืออยู่บริเวณคลองอีแอด ใกล้แหลมผักเบี้ย ในฤดูท่องเที่ยวสามารถติดต่อที่ซุ้มบริการของ อบต. บริเวณท่าเรือ หากต้องการดูนกทั้งวัน ติดต่อพี่แดง โทร.08-0223-5250
อาบน้ำแร่แจ้ซ้อน
อ.แจ้ซ้อน จ.ลำปาง
ในยามเช้าที่แสงแดดลำแรกเริ่มสาดส่องกระทบบ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน อาบไล้ผิวน้ำและละอองหมอกควันอันหนาทึบของน้ำพุให้เป็นสีทองอร่ามรังสรรค์ให้ปรากฏการณ์ธรรมชาติจากความร้อนใต้พื้นโลกงดงามเกินคำบรรยาย
น้ำพุร้อนแจ้ซ้อนเป็นบ่อหินตื้นๆ มีหินรูปทรงต่างๆ ทั้งแผ่นและก้อนกระจัดกระจายอยู่รอบบ่อน้ำเก้าบ่อ บนลานกว้างประมาณ 3 ไร่ น้ำแร่บริเวณนี้มีปริมาณซัลไฟด์หรือกำมะถันเพียง 0.1 มิลลิกรัม/ลิตร เหมาะสำหรับการนำน้ำแร่มาอาบหรือลงแช่ บางคนก็นิยมนำไข่ไก่หรือไข่นกกระทาลงไปต้มเพื่อพิสูจน์ความร้อน ซึ่งแปลกที่ว่าน้ำร้อนเหล่านี้จะทำให้ไข่แดงสุกมากกว่าไข่ขาว
หากอยากทดลองอาบน้ำแร่ หรือลงแช่น้ำร้อน ก็มีทั้งแบบตักอาบ หรือแช่ในบ่อถึง 21 ห้อง โดยมีการต่อท่อน้ำร้อนมาจากบ่อพักและควบคุมอุณหภูมิสูงเพียง 39-42 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนเกินกว่าจะลงไปนอนแช่ได้แบบสบายๆ
การแช่น้ำแร่มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ช่วยให้การไหลเวียงโลหิตดีขึ้น รักษาโรคผิวหนังบางชนิด โรคไขข้ออักเสบ เป็นต้น
การแช่น้ำแร่ให้ปลอดภัย อย่ารีบร้อนลงแช่ทั้งตัว ให้เริ่มจากจุ่มเท้าลงในน้ำร้อนก่อนรอจนเมื่อคุ้นเคยกับความร้อนแล้วจึงค่อยๆตามด้วยส่วนอื่นลงไปจนกระทั่งแช่ทั้งตัวพอรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยก็ให้ขึ้นจากอ่างแช่อย่าฝืนแช่อยู่นานเกินไป
อุทยานแห่งชาติลำคลองงูมีบ้านพัก ที่กางเต็นท์ และร้านอาหาร รวมถึงเจ้าหน้าที่นำทางพร้อมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ให้บริการ ติดต่อที่ ตู้ ปณ.4 ปทจ.ทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 71180 โทร.08-6175-4786
ล่องเรือดูโลมา
อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
ฝูงโลมาห้าหกตัวที่ดำผุดดำว่ายไล่ต้อนเหยื่ออยู่บริเวณปากแม่น้ำบางปะกง สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้คนบนเรือที่ยกกล้องในมือขั้นถ่ายภาพหรือชี้ชวนกันดูโลมาที่บ้างก็โผล่พ้นน้ำขึ้นมาทั้งตัว บ้างก็มองเห็นเพียงแค่ครีบหางให้ลุ้นระทึกอยู่ในที
ด้วยความที่ปากแม่น้ำบางปะกงเป็นจุดบรรจบของน้ำจืดกับน้ำเค็ม และรายรอบด้วยป่าชายเลน ทำให้มีแพลงก์ตอนเป็นอาหารของปลาหลายชนิด โดยเฉพาะปลาดุกทะเลที่เป็นอาหารโปรดของโลมา เราจึงพบเห็นโลมาได้ตลอดฤดูหนาว โดยมีถึงสามชนิด คือ โลมาอิรวดีที่พบเห็นได้ง่ายและบ่อยที่สุด ตัวสีเทาเข้มยาวกว่า 2 เมตร โลมาหัวบาตรหลังเรียบ ตัวเล็กเพียงเมตรกว่าๆ และไม่มีครีบหลัง และโลมาเผือกหลังโหนกที่ตัวโตถึง 3 เมตร ลำตัวสีน้ำตาลเหลืองไปจนถึงขาวอบชมพู
อยากเห็นโลมาเหล่านี้ต้องมาเที่ยวชมในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ โดยเฉพาะในช่วงน้ำตายที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูงและค่อนข้างคงที่ ใช้เวลาล่องเรือชมประมาณ 2-3 ชั่วโมง ถ้าเลือกได้ควรไปชมในวันธรรมดาเพราะมีโอกาสเห็นโลมาได้นานกว่าช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ที่เรือวิ่งสวนกันไปมาเป็นจำนวนมาก จนทำให้โลมาตื่นกลัวไม่ยอมโชว์ตัวนานๆ
ก่อนเดินทางมาชมโลมา ควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลตำบลท่าข้าม(โทร.0-3857-3411-2) จุดบริการเรือมีสองแห่ง คือ ท่าเทียบเรือเทศบาลตำบลท่าข้าม หมู่ที่ 1 บ้านหัวแหลม(ติดต่อนายปราโมช สุวรรณ์วงศ์ โทร.08-7128-4089)และท่าเทียบเรือเทศบาลตำบลท่าข้าม หมู่ที่ 8 โรงเรียนคลองตำหรุ(เดิม) (ติดต่อนายอดุลย์ ศุภรัตน์ โทร.08-6837-6628
นั่งช้างท่องป่า
อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
โขลงช้างหลายสิบเชือกที่ยืนเรียงรายอยู่ริมลำน้ำสร้างความตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยวที่ต่างกรูเข้าไปใกล้ๆ บางคนยืนถ่ายรูปคู่กับช้างหลายสิบรูปไม่ยอมหยุด ทั้งๆ ที่อีกสักครู่ก็จะได้ขึ้นนั่งหลังช้างไปเที่ยวในป่าใกล้ๆ นี้แล้ว
แถบ อ.แม่ริม แม่แตง และเชียงดาว มีปางช้างอยู่หลายแห่ง เช่นปางช้างแม่แตง ปางช้างแม่สา ปางช้างแม่ตะมาน ปางช้างเชียงดาว เป็นต้น ทุกวันจะจัดแสดงความสามารถของช้างไทยนับสิบเชือกให้ชมกันเป็นที่สนุกสาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นบาสเกตบอล แสดงการชักลากไม้ โดยเฉพาะการวาดรูปที่ช้างไทยบางเชือกได้เป็นศิลปินดังระดับโลกเพราะภาพข่าวไปปรากฏตามสื่อต่างๆ ทั่วโลก
หลังชมการแสดงจบแล้วไม่ควรพลาดการขึ้นนั่งช้างพาเดินข้ามลำห้วยไต่เนินเขาชมธรรมชาติในป่าอันร่มรื่นระยะทางไม่ไกลนัก ใช้เวลาราว 1-2 ชั่วโมง กลับมาแล้วยังอยากใกล้ชิดกับช้างอีกก็ไปร่วมกับควาญช้างให้อาหารหรืออาบน้ำช้างด้วยก็ได้
บอกได้เลยว่ากิจกรรมนั่งช้างจะสร้างความประทับใจให้ทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นเยาว์ไม่น้อยหน้ากันทีเดียว
ปางช้างส่วนใหญ่มีร้านอาหาร ปางช้างแม่แตง โทร.0-5320-6047 ปางช้างแม่ตะมาน โทร.0-5329-7060
ขี่จักรยานเสือภูเขาลุยสวน
อ.เมือง จ.นครนายก
เมื่อเท้าเริ่มถีบบันไดของจักรยาน ล้อสองล้อก็เริ่มหมุนวน และค่อยๆ วิ่งเลาะขอบทางเรียบเข้าสู่ร่มเงาไม้ใหญ่สลับกับท้องทุ่งที่สายลมเย็นพัดโชยพากลิ่นหอมของดอกไม้ กลิ่นดิน กลิ่นน้ำจากแม่น้ำนครนายกโชยมาให้ชื่นใจ
ในนครนายกมีเส้นทางสำหรับขี่จักรยานหลายสิบเส้นทางทั้งระยะทางสั้นและยาว ทางลาดเรียบเลาะตามเรือสวน และทางลูกรังลุยธารน้ำในชมธรรมชาติในราวป่า
เส้นทางที่นิยมกันมากคือ เส้นทางวังตะไคร้-วังยาว ระยะทาง 22 กิโลเมตร เริ่มต้นบริเวณเชิงสะพานวังตะไคร้ หน้าร้านลุงเหลี่ยม มุ่งตรงไปทางน้ำตกนางรอง เข้าถนนเล็กๆ ไปวัดท่าด่าน หุบเมย เมื่อสุดถนนเลียบคลองส่งน้ำให้เลี้ยวขวาเขาถนนลาดยางเล็กๆ ช่วงนี้จะเป็นสวนผลไม้สลับกับท้องทุ่งสวยงาม ขี่ไปจนถึงสี่แยกบ้านวังยาว ถ้ายังไม่เหนื่อยเลี้ยวซ้ายไปตามทางผ่านวัดคีรีวัน แล้ววนกลับมายังจุดเริ่มต้น
หากชอบผจญภัย จากสี่แยกบ้านวังยาวให้ขี่ตรงไปตามถนนลูกรังยาว 1 กิโลเมตร จนพบแม่น้ำนครนายก ช่วงฤดูหนาวน้ำลึกไม่เกินเข่า ขี่ลุยน้ำไปได้เลย ทางจะขรุขระให้อารมณ์ของการขี่เสือภูเขา
เส้นทางนี้จึงเรียกได้ว่าครบเครื่อง ขี่สนุกเพลิดเพลินกันได้ทั้งวันเลยที่เดียว
มีร้านให้เช่าจักรยาน รวมทั้งล่องแก่งหลายแห่ง แนะนำอดิเรกคายักมาสเตอร์ ใกล้ครัววังมะนาว(โทร.0-3739-3518) สาริการแอดเวนเจอร์พอยนท์(โทร.0-3732-8432) แพ แคนู แคมป์(โทร.0-3738-5042)
ล่องเรือดูนกบึงบอระเพ็ด
อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์
บึงบอระเพ็ดเป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์นับร้อยชนิด โดยเฉพาะนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร ที่พบเพียงแห่งเดียวในโลก
ทุกปีเมื่อลมหนาวมาเยือนประเทศไทย ฝูงนกอพยพที่บินหนีหนาวจากแดนไกลก็จะมาพึ่งพิงบึงน้ำแห่งนี้เป็นแหล่งอาศัย ด้วยสภาพพื้นที่รอบบึงที่มีพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งกก อ้อ พงแขม ในบึงน้ำมีทั้งบัวบา สันตะวา สาหร่ายต่างๆ ทำให้มีปลาชุกชุม เป็นอาหารของนกอพยพ โดยเฉพาะฝูงนกเป็ดน้ำนับหมื่นตัวที่อพยพมาพักพิงอาศัย หลายชนิดใกล้สูญพันธุ์ เช่น นกกระทุง นกช้อนหอยดำเหลือบ นอกจากนี้ยังมีนกน้ำประจำถิ่นที่มีสีสันสวยงามน่าชม ไม่ว่าจะเป็นนกอัญชัญคิ้วขาว นกอีแจวนางยาว นกกระเต็นอกขาว รวมไปถึงเหยี่ยวหลายชนิดที่มาโฉบกินปลา
ฤดูกาลนี้จึงเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการดูนกน้ำที่บึงบอระเพ็ดและยิ่งถ้าได้ล่องเรือชมทุ่งดอกบัวสายสีชมพูบานสะพรั่งเต็มท้องน้ำ พร้อมกับสายหมอกนวลในยามเช้า หรือยามเย็นที่พระอาทิตย์ดวงกลมโตสีส้มแดงกำลังจะตกลับขอบฟ้า ก็สวยจนแทบจะลืมหายใจเลยทีเดียว
มีเรือบริการอยู่ที่บริเวณอุทยานนกน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด (โทร.08-1786-4330)หรือที่ศูนย์พัฒนาประมงน้ำจืด
ล่องแก่งลำน้ำว้า
อ.แม่จริม จ.น่าน
ท่ามกลางสายน้ำสีเงินทอดยาวคดโค้งผ่านผืนป่าใหญ่ที่กำลังผลัดใบเปลี่ยนสีจากเขียวเข้มเป็นเหลือง ส้ม แดงเจิดจ้า เรือยางสีสดหลายสิบลำล่องผ่านแก่งใหญ่น้อยในสายน้ำว้า ผู้คนในเรือส่งเสียงร้องตื่นเต้นดังไปไกลหลายคุ้งน้ำ
ลำน้ำว้าเป็นสายน้ำเล็กๆ ที่มีต้นกำเนิดจากทิวเขาหลวงพระบางชายแดนไทย-ลาว ไหลเลาะผ่านแนวป่าเขาเขียวขจี มีแก่งหินและวังน้ำอยู่หลายสิบแหง จึงมีผู้นิยมมาล่องแก่งกันเป็นจำนวนมาก โดยมีสองเส้นทาง คือ ลำน้ำว้าตอนกลาง สำหรับมือเก๋าที่ต้องคัดพายสู้กับสายน้ำถึง 3 วัน 2 คืน ระยะทางยาวกว่า 80 กิโลเมตร แต่ที่นิยมกันมากกว่าคือ ลำน้ำว้าตอนล่าง เป็นช่วงไหลผ่านอุทยานแห่งชาติแม่จริม ระยะทางยาวเพียง 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงก็ล่องผ่าน มีแก่งเล็กๆ สามสี่แก่งให้ลองฝีผายก่อนลำน้ำจะแคบเข้าผ่านแก่งหลวงที่คดโค้ง บางช่วงลำธารลดระดับลงคล้ายน้ำตกเล็กๆ ยาวถึง 800 เมตร ให้หัวใจได้เต้นระทึก ก่อนจะผ่อนคลายแต่ท้าทายกับแก่งสาลี แก่งต้นไทร แก่งสวนหิน ซึ่งมีลักษณะเป็นแก่งหิน และสายน้ำแตกต่างกันออกไป สร้างความตื่นเต้นระทึกใจให้ลืมไม่ลงเลยทีเดียว
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการล่องแก่งลำน้ำว้าประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม
มีบริษัททัวร์หลายแห่งให้บริการลองแก่งด้วยแพยางลำน้ำว้า มีให้บริการติดต่อได้ทั้งที่ อ.เมือง และ อ.แม่จริม แนะนำน่านทัวริ่ง(โทร.08-1961-7711)
เที่ยวถ้ำปางมะผ้า
อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน
ปางมะผ้า อำเภอเล็กๆ ใน จ.แม่ฮ่องสอน โด่งดังไปทั่วโลกด้วยเถื่อนถ้ำนับร้อยแห่ง บางแห่งเป็นถ้ำลึกยาวที่สุดในเอเชีย บางแห่งค้นพบโครงกระดูกและโลงของมนุษย์โบราณ บางแห่งกว้างใหญ่จนสามารถล่องแพภายในถ้ำได้ นักผจญภัยผู้นิยมการเที่ยวถ้ำจากทุกมุมโลกจึงพากันเดินทางมาที่นี่
ในบรรดาถ้ำที่ยังบริสุทธิ์จำนวนมาก มีถ้ำเพียงไม่กี่แห่งที่ได้พัฒนาและจัดการให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยถ้ำที่ได้รับความนิยมมากมีสองแห่ง คือ ถ้ำลอดและถ้ำแม่ละนา ถ้ำลอดเป็นถ้ำขนาดใหญ่ซึ่งมีลำน้ำลางไหลผ่าน สามารถล่องแถไม้ไผ่เข้าไปได้ หรือเดินเข้าไปในถ้ำระยะทางราว 500 เมตร จะพบถ้ำใหญ่สามถ้ำ คือ ถ้ำเสาหิน ที่มีเสาหินสูงใหญ่หลายต้น ถ้ำตุ๊กตา มีหินงอกเป็นปุ่มปมคล้ายตุ๊กตา และถ้ำผีแมน มีโลงไม้ใหญ่ สันนิษฐานว่าเป็นโลงของมนุษย์โบราณ
ส่วนถ้ำแม่ละนายาวถึง 12 กิโลเมตร ยาวที่สุดในเอเชีย แต่เพื่อความปลอดภัยจึงได้กำหนดเส้นทางเที่ยวถ้ำไว้เพียง 2.5 กิโลเมตร เพราะต้องเดินลุยลำน้ำไปตลอด เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการผจญภัย ภายในถ้ำมืดสนิท ต้องใช้ไฟฉายความแรงสูง เส้นทางจะผ่านโขดหินใหญ่ หินงอกหินย้อยอันงดงามไปจนถึงอ่างน้ำขนาดใหญ่ภายในถ้ำ
๐ควรเที่ยวเป็นกลุ่มประมาณ 5-10 คน
๐ทุกคนควรมีอุปกรณ์สร้างแสงสว่างประจำตัว ได้แก่ หมวกนิรภัยที่มีดวงไฟติดหน้าหมวก ไฟฉายพร้อมถ่านไฟฉายและหลอดสำรอง เทียนและไฟแช็ก เก็บไว้ในถุงพลาสติกที่ผนึกกันน้ำไว้อย่างดี
๐ใส่เสื้อผ้าหนาๆ กันหินบาด และสวมรองเท้าที่แข็งแรงทนทาน
อย่าลองปีนป่ายหน้าผาที่อันตรายและบุกเข้าไปในที่ลำบาก
การเข้าชมถ้ำลอดต้องติดต่อที่สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าถ้ำน้ำลอด(โทร.0-5361-7218)ส่วนถ้ำแม่ละนา ติดต่อศูนย์บริการเที่ยวถ้ำบ้านแม่ละนา (โทร.0-5361-9028)
ล่องแก่งลำน้ำเข็ก
อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
แพยางหลายสิบลำและหลากสี ทั้งน้ำเงินเข้ม สดส้มชมพูเจิดจ้า ลอยตัวรายเรียงอยู่ริมลำน้ำ บนฝั่งนักท่องเที่ยวในชุดสวมหมวกและเสื้อชูชีพตั้งใจฟังคำอธิบายการล่องแก่ง ก่อนจะร่วมผจญภัยไปกลางสายน้ำขุ่นข้นที่กระทบแก่งเป็นฟองขาวคล้ายน้ำเดือดพล่าน
ลำน้ำเข็กหรือแม่น้ำวังทอง เกิดจากการไหลมารวมกันของคลองเข็กน้อยและคลองเข็กใหญ่ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ มีความยาวนับร้อยกิโลเมตรแต่ช่วงลำน้ำที่นิยมล่องแพบริเวณบ้านทรัพย์ไพรวัลย์นั้นยาวไม่ถึง 10 กิโลเมตรใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือประมาณเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน
ทางช่วงแรกเป็นลำน้ำนิ่งก่อนเข้าสู่แก่งเล็ก ๆ สามสี่แก่งเป็นการลองเชิง จากนั้นกระแสน้ำจะไหลรุนแรงผ่านแก่งยาง แก่งรัชมังคลาและแก่งซาง ซึ่งเหมือนน้ำตกต่างระดับกันสี่ชั้น ทำให้เรือยางโยนตัวมุดน้ำก่อนจะโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง สร้างความตื่นเต้นให้กับนักล่องเรือ แล้วจึงเข้าสู่แก่งนางคอยที่ถือเป็นไฮไลต์ ด้วยเป็นน้ำตกสูงกว่า 2 เมตร ทางช่วงสุดท้ายปล่อยให้นักผจญภัยผ่อนคลายไปกับความคดโค้งของแก่งยาว
ตลอดระยะทางซึ่งมีทั้งตื่นเต้น หวาดเสียว และโล่งใจเมื่อผ่านพิชิตมาได้จะประทับเป็นความทรงจำที่หลายคนอยากหวนกลับมาอีก
ดูนกอพยพที่แหลมผักเบี้ย
อ.เมือง จ.เพชรบุรี
เมื่อยามลมหนาวแรกเริ่มพัดมาจากเมืองจีน ฝูงนกอพยพหลายร้อยชนิด นับพันนับหมื่นตัวจะบินล่องใต้เป็นระยะทางไกลหลายพันกิโลเมตร เพื่อย้ายถิ่นหากินและแหล่งอาศัยโดยมีจุดแวะพักสำคัญที่บริเวณอ่าวไทยตอนใน โดยเฉพาะตามนาเกลือริมชายฝั่งตั้งแต่แถบ อ.บ้านแหลม มาจนถึงแหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี
แนะนำให้นั่งเรือจากคลองอีแอด ใกล้แหลมผักเบี้ย ล่องไปตามคลองที่สองฝั่งเต็มไปด้วยต้นแสมและต้นโกงกาง อาจพบนกกระเต็นสีฟ้าสด นกยางสีขาว ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็จะออกถึงทะเล ในยามน้ำลงที่ปลายแหลมผักเบี้ยจะมีนกหลากชนิด ทั้งนกทะเลอย่างนกนางนวล นกหัวโตมลายู ซึ่งล้วนแล้วแต่มีรูปร่างและสีสันที่แตกต่างกันออกไป โชคดีอาจพบนกหายากระดับโลก เช่น นกชายเลนปากช้อน นกลอยทะเลคอแดง เป็นรางวัลสำหรับผู้มาเยือน
ควรเตรียมอาหารกลางวันไปด้วยจะได้อยู่ชมนกที่กลางสันดอนทรายของแหลมผักเบี้ยไปจนถึงยามเย็นเพื่อชมความงดงามยามพระอาทิตย์ตกน้ำเป็นของแถม
จุดลงเรืออยู่บริเวณคลองอีแอด ใกล้แหลมผักเบี้ย ในฤดูท่องเที่ยวสามารถติดต่อที่ซุ้มบริการของ อบต. บริเวณท่าเรือ หากต้องการดูนกทั้งวัน ติดต่อพี่แดง โทร.08-0223-5250
อาบน้ำแร่แจ้ซ้อน
อ.แจ้ซ้อน จ.ลำปาง
ในยามเช้าที่แสงแดดลำแรกเริ่มสาดส่องกระทบบ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน อาบไล้ผิวน้ำและละอองหมอกควันอันหนาทึบของน้ำพุให้เป็นสีทองอร่ามรังสรรค์ให้ปรากฏการณ์ธรรมชาติจากความร้อนใต้พื้นโลกงดงามเกินคำบรรยาย
น้ำพุร้อนแจ้ซ้อนเป็นบ่อหินตื้นๆ มีหินรูปทรงต่างๆ ทั้งแผ่นและก้อนกระจัดกระจายอยู่รอบบ่อน้ำเก้าบ่อ บนลานกว้างประมาณ 3 ไร่ น้ำแร่บริเวณนี้มีปริมาณซัลไฟด์หรือกำมะถันเพียง 0.1 มิลลิกรัม/ลิตร เหมาะสำหรับการนำน้ำแร่มาอาบหรือลงแช่ บางคนก็นิยมนำไข่ไก่หรือไข่นกกระทาลงไปต้มเพื่อพิสูจน์ความร้อน ซึ่งแปลกที่ว่าน้ำร้อนเหล่านี้จะทำให้ไข่แดงสุกมากกว่าไข่ขาว
หากอยากทดลองอาบน้ำแร่ หรือลงแช่น้ำร้อน ก็มีทั้งแบบตักอาบ หรือแช่ในบ่อถึง 21 ห้อง โดยมีการต่อท่อน้ำร้อนมาจากบ่อพักและควบคุมอุณหภูมิสูงเพียง 39-42 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนเกินกว่าจะลงไปนอนแช่ได้แบบสบายๆ
การแช่น้ำแร่มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ช่วยให้การไหลเวียงโลหิตดีขึ้น รักษาโรคผิวหนังบางชนิด โรคไขข้ออักเสบ เป็นต้น
การแช่น้ำแร่ให้ปลอดภัย อย่ารีบร้อนลงแช่ทั้งตัว ให้เริ่มจากจุ่มเท้าลงในน้ำร้อนก่อนรอจนเมื่อคุ้นเคยกับความร้อนแล้วจึงค่อยๆตามด้วยส่วนอื่นลงไปจนกระทั่งแช่ทั้งตัวพอรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยก็ให้ขึ้นจากอ่างแช่อย่าฝืนแช่อยู่นานเกินไป
10 ที่ท่องเที่ยวเมืองหนาว ที่น่าไปเยือน
สังขละบุรี
อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
สะพานไม้โย้เย้ยืนตัวทอดข้ามเชื่อมสองฝั่งแม่น้ำซองกาเลียในท่ามกลางไอหมอกอรุณรุ่ง ยามเช้าหมู่พระสงฆ์ออกบิณฑบาต มีชาวมอญคอยถวายข้าวปลาอาหาร คือภาพจำอันงดงามของผู้คนที่ได้มาเยือนเมืองเล็กๆ แห่งนี้
เมืองสังขละบุรีเดิมเคยตั้งอยู่ ณ บริเวณที่สายน้ำซองกาเลียรันตี และบีคลี่ ไหลมาพบกันเป็นสามประสบ แต่เมื่อมีการสร้างเขื่อนเขาแหลม วัดและชมชนจึงย้ายมาอยู่ริมแม่น้ำซองกาเลีย ฝั่งหนึ่งเป็นวัดวังก์วิเวการามที่หลวงพ่ออุตตมะ พระเกจิอาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตานำชาวมอญ ปกากะญอ และพม่า สร้างสะพานไม้ข้ามมายังตัวเมือง ภายในโบสถ์ประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนอันงดงาม แกะสลักโดยช่างชาวมัณฑะเลย์ และบริเวณใกล้เคียงยังได้สร้างเจดีย์พุทธคยาจำลอง เจดีย์แบบศิลปะอินเดียวสีทองอร่าม อยู่ท่ามกลางชุมชนชาวมอญที่อพยพมาเมื่อกว่า 50 ปีก่อน
นี่เป็นเมืองเล็กๆ ที่วันเวลาดูเหมือนจะสงบนิ่งอย่างเยือกเย็น น่าหลงใหลจนมิอาจไม่ไปเยือนดูสักครั้ง
สามเหลี่ยมทองคำ
องเชียงแสน จ.เชียงราย
ลำน้ำโขงทอดตัวโค้ง สายหมอกลอยอ้อยอิ่ง แสงเช้าค่อยๆ เผยตัวจากขอบฟ้าเหนือเมืองเชียงแสนขณะที่ลมหนาวพัดมาเอื่อยๆ ความงดงามของธรรมชาติริมฝั่งโขงดึงดูดให้ที่นี่เป็นจุดหมายของหลายคน โดยเฉพาะที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ รอยต่อของสามประเทศ คือ ไทย ลาว และพม่า ซึ่งเคยเป็นแหล่งปลูกฝิ่นและผลิตเฮโรอีนแหล่งใหญ่ของโลก
เมืองเชียงแสนมีประวัติความเป็นมาเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยแรกเริ่มของอาณาจักรล้านนา ซึ่งปัจจุบันยังคงปรากฏโบราณสถานให้เราได้เที่ยวชม หากจะทำบุญไหว้พระแนะนำให้ไปที่วัดพระธาตุผาเงาพร้อมกับชมทิวทัศน์กว้างไกลอันงดงามของลำน้ำโขงจากบนยอดเขา จากนั้นไปกราบพระธาตุจอมกิตติเพื่อความเป็นสิริมงคล สำหรับผู้รักธรรมชาติไม่ควรพลาดทะเลสาบเชียงแสน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะมีนกอพยพนับหมื่นตัวมาแวะพักอาศัยหลายชนิดเป็นนกหายากที่พบครั้งแรกในเมืองไทยที่นี่
ถ้าจะมีเมืองใดที่มีทั้งความงามของสายน้ำอดีตเก่าแก่ วัดวาอารามที่สวยงาม อากาศบริสุทธิ์ เชียงแสนคือเมืองนั้น
ดอยแม่สลอง
อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
ลัดเลาะไปตามไหล่เขาที่สูงชันและคดเคี่ยวสู่จุดหมายบนดอยแม่สลอง ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชนชาวเขาเผ่าต่างๆ บนดอยสูง โดยเฉพาะบนดอยแม่สลองคือชุมชนใหญ่ของอดีตทหารจีนกองพล 93 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ได้ลี้ภัยมาอาศัย
บ้านสันติคีรีเป็นชุมชนใหญ่หลายร้อยหลังคาเรือน มีอากาศเย็นสบายตลอดปี เมื่อเดินตามถนนสายหลักกลางหมู่บ้านจะเห็นร้านจำหน่ายชาเรียงรายให้เราทดลองเข้าไปชิมและเลือกซื้อ ชาที่มีขื่อเสียงที่สุดคือชาอู่หลง ซึ่งมีกลิ่นหอมพิเศษ จากนั้นแวะไปเยี่ยมชมสุสานของนายพลต้วนซีเหวิน ผู้นำกองทหารจีนในอดีต
จากหมู่บ้านไปอีกไม่ไกลบนดอยสูงเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทรามหาสันติคีรี และเป็นจุดสูงสุดของดอยแม่สลองซึ่งมีทิวทัศน์เทือกเขากว้างไกลงดงามมาก
การเดินทางขึ้นสู่ดอยแม่สลองในช่วงฤดูหนาวจะได้ตื่นตาตื่นใจกับต้นซากุระหรือต้นนางพญาเสือโคร่งที่ออกดอกสีชมพูพราวเต็มต้นตลอดสองข้างทาง สวยงามจนทุกคนต้องถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก
แม่แจ่ม
อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
ถ้ามองลงมาด้วยสายตาของนกจากถนนที่แล่นลงมาจากดอยอินทนน์จะเห็นสายน้ำแม่แจ่มสะท้อนประกายแดดระยิบและมีหย่อมบ้านใหญ่น้อยเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำทอดไปไกลภายในที่ราบกลางหุบเขา
ด้วยหนทางอันยากลำบา แม่แจ่มจึงยังคงความสงบงาม มีประเพณีวัฒนธรรมที่สืบทอดมาแต่อดีต ไม่ว่าจะเป็นการล่องสังขารในเทศกาลสงกรานต์ งานบุญปอยหลวง งานจุลกฐิน ทั้งยังมีวัดเก่าแก่งดงาม โดยเฉพาะวัดกองกานที่ประดิษฐานพระเจ้าตนหลวง พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองแม่แจ่ม แม้แต่วิหารไม้ยังปรากฏงานแกะสลักไม้อันประณีต วัดพุทธเอ้นมีโบสถ์เก่ากลางน้ำ วัดป่าแดดมีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างชาวไทยใหญ่ ส่วนที่วัดยางหลวงด้านหลังวิหารมีกิจกูฏหรือกู่ปราสาทสร้างจากปูนประดับลวดลายปูนปั้นงดงามน่าชม
รอบๆ ชุมชนยังเต็มไปด้วยไร่นาเหมืองฝายให้สัมผัสวิถีชีวิตชนบท หากเดินไปตามบ้านเรือน ต.ช่างเคิ่ง ต.ท่าผา ก็จะเห็นชาวบ้านนั่งทอผ้าอยู่ใต้ถุนเรือน มีเรือนหมอเมืองผู้ชำนาญด้านสมุนไพรภูมิปัญญาท้องถิ่นที่บ้านยางหลวง
วังน้ำเขียว
อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
เมื่อคุณได้เมาเยือนที่นี่ วังน้ำเขียว “สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน” ขอให้คุณสูดอากาศเบาสบายเข้าไปให้เต็มปอด ยิ่งในยามเช้าที่ทะเลหมอกปกคลุมทั่วหุบเขาท่ามกลางอากาศอันหนาวเย็น ความบริสุทธิ์สงบของธรรมชาติรอบตัว จะคลายความทุกข์ความกังวนให้คุณได้รู้สึกพักผ่อนอย่างแท้จริง
เพียงไม่กี่ปีมานี้ วังน้ำเขียวกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทุกคนต่างมุ่งมาหา ด้วยเป็นแหล่งโอโซนติดอันดับ 7 ของโลก และเป็นแหล่งปลูกพืชผักผลไม้ดอกไม้ที่น่าชมและเลือกซื้อ ที่เด่นๆ ก็เช่น สวนเบญจมาศ แปลงผักปลอดสารพิษ โรงเพาะเห็ดหอม ไร่องุ่นสำหรับทำไวน์ เรียกว่าได้ทั้งความเพลิดเพลินความรู้ด้านเกษตร และของกินของฝากติดไม้ติดมือกันในคราวเดียว
หากอยากสัมผัสธรรมชาติให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เดินทางจากวังน้ำเขียวไม่ไกลก็จะเข้าถึงพื้นที่ชายขอบของเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งมีโอกาสเผ้าดูฝูงกระทิง สัตว์ป่าหายาก มีให้เลือกชมได้สองจุด คือ ที่บริเวณเขาแผงม้า และหน่วยพิทักษ์ ขญ 14 คลองปลากั้ง
หนาวนี้หากคิดจะพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูสุขภาพทั้งกายและใจวังน้ำเขียวรอคุณอยู่
เมืองน่าน
อ.เมือง จ.น่าน
ในยามเช้า สายหมอกโรยตัวรอบๆ กาดอันมีชีวิตชีวาด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของ บ้างเป็นแม่อุ๊ยเฒ่าเก็บผักข้างบ้านมาขาย บ้างเป็นแผงขายปลา ขายผักพื้นบ้านและสินค้าสารพัด พอแดดออกตลาดก็วาย เป็นภาพชีวิตน่าประทับใจในเมืองเล็กๆ อย่างเวียงน่าน
เมืองน่านยังหลงเหลือร่องรอยของความเป็นล้านนาอย่างสูงอยากรู้ประวัติเมืองให้เข้าไปชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ก่อนแล้วแวะไปกราบพระประธานสี่ทิศในวิหารจัดรมุข วัดภูมินทร์ ชมจิตรกรรมฝาผนังที่จะเห็นรูปการแต่งกายของชายหญิงในสมัยก่อน จากนั้นเพียงแค่ข้ามถนนออกมาก็สามารถเดินไปกราบพระเจดีย์ช้างค้ำที่ได้รับอิทธิพลศิลปะสถาปัตยกรรมจากสุโขทัย ใกล้ๆกันที่วัดหัวข่วงมีหอไตร วิหาร และเจดีย์ งานฝีมือช่างเมืองน่านแท้ๆ
ตรงมุม ถ.ผากองนั้นเป็นคุ้มเจ้าราชบุตร(หมอกฟ้า ณ น่าน) เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นให้ได้ชมข้าวของเครื่องใช้ไม้สอยและภาพถ่ายบอกเล่าเรื่องราวอันรุ่งเรืองของเมืองน่านเมื่อครั้งอดีต
ปาย
อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำในหุบเขากว้างแห่งนี้มากด้วยเสน่ห์ชาวหลงใหลกับบรรยากาศแสนโรแมนติกท่ามกลางธรรมชาติสวยสด ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกให้เข้ามาสัมผัสความทันสมัยที่ผสมกับความเป็นพื้นเมืองอย่างลงตัว
ด้านหนึ่งปายยังมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ให้เที่ยวอยู่นอกเมือง อย่างน้ำตกหมอแปง น้ำพุร้อนท่าปาย น้ำตกแม่เย็น หรือสายน้ำปายที่สามารถลงล่องแพได้ อีกด้านหนึ่งก็มีวัดที่มีศิลปะแบบไทยใหญ่ให้ชม เช่น วัดกลาง วัดหลวง วัดน้ำฮู้ วัดพระธาตุแม่เย็น หากอยากเห็นเมืองปายโบราณขึ้นไปบ้านเวียงเหนือ ยังเหลือร่องรอยของคูน้ำกำแพงดินประตูเมืองทั้งสี่ทิศ แวะสักการะที่วัดศรีดอนชัย วัดเก่าแก่สร้างเมื่อราว พ.ศ.2054
สีสันของเมืองปายเริ่มตั้งแต่จุดชุมนุมยามเช้าบริเวณตลาดเก่าบน ถ.รังสิยานนท์ มีอาหารเช้าให้เลือกตามใจชอบ หรือเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งเล่นตามร้านกาแฟหลายแบบหลากสไตล์ เมื่อยามเย็นเดินทางมาถึงแสงสีของร้านรวงบนถนนเส้นเดียวกันนี้ต่อเนื่องไปถึง ถ.ชัยสงคราม ต่างส่องสว่างเพื่อต้อนรับแขกต่างเมืองที่มาชุมนุมกันบนถนนคนเดิน
เมืองสามหมอก-ปางอุ๋ง
อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
เมืองแม่ฮ่องสอนเป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ น่ารัก เดินเล่นจนรอบเมืองแล้วก็ยังไม่เหนื่อย
ในช่วงเช้าความคึกคักอยู่บริเวณตลาดกลางเมืองกับอาหารการกินและวิถีชีวิตของชาวเมืองสามหมอก
แล้วไปดื่มด่ำกับความงดงามของวัดสถาปัตยกรรมแบบไทยใหญ่ที่วัดจองคำและวัดจองกลางพร้อมกับเก็บภาพที่ระลึกกับมุมถ่ายภาพสวยที่สุดที่หนองจองคำ จากนั้นไปนมัสการพระเจ้าพาลาละแข่งที่วัดหัวเวียง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่องจำลองจากพระมหามุนีในเมืองมัณฑะเลย์ ช่วงเย็นขึ้นไปไหว้พระธาตุบนยอดดอยกองมู หรือเดินเล่นที่ถนนคนเดินใกล้วัดจองคำและวัดจองกลาง ตบท้ายด้วยการนั่งเล่นหย่อนใจในร้านกาแฟสดที่มีให้เลือกหลายร้าน
ออกจากเมืองแม่ฮ่องสอนไปไม่ไกล คือแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังขึ้นชื่อไม่แพ้ปาย นั่นคือปางอุ๋ง ด้วยความงดงามของทิวทัศน์ริมทะเลสาบปางตองกับบรรยากาศชวนฝันยามเช้าที่มีไอหมอกลอยเรี่ยผิวน้ำ เป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนตัดสินใจเก็บความทรงจำดีๆ ด้วยการกางเต็นท์นอนริมทะเลสาบ
เมืองลำพูน
อ.เมือง จ.ลำพูน
ลำพูนเมืองเล็กๆ แต่เก่าแก่ที่สุดในล้านนา ที่ถึงเมืองอื่นๆ จะเติบโตรวดเร็วเพียงใด ที่นี่ก็ยังดำรงชีวิตเนิบช้าแต่งดงาม
เริ่มต้นยามเช้าที่กาดหนองดอกกับภาพผู้คนจับจ่ายซื้อของขายของ มีทั้งเครื่องเทศและผักพื้นบ้านมากมายจากนั้นเข้าไปที่วัดจามเทวีซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน มีเจดีย์กู่กุดเป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมซึ่งมีซุ้มจระนำศิลปะแบบทวารวดีตอนปลายว่ากันว่าเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมของหริภุญชัย เสร็จแล้วลองเรียกรถสามล้อให้พาไปที่ ถ.อินทยงยศ ชมคุ้มเจ้าหลวง อาคารแบบยุโรปครึ่งตึกครึ่งไม้ หรือบ้านเรือนแถวไม้สองชั้น มีราวไม้ฉลุลายเรียงรายอยู่หลายหลัง
สิ่งสำคัญที่พลาดไม่ได้คือการกราบนมัสการพระธาตุหริภุญชัย ก่อนข้ามไปซื้อของฝากของที่ระลึกหลากหลายบนขัวมุง (สะพานไม้มุงหลังคา) ตรงประตุเมืองเก่าชื่อว่าท่าสิงห์ แล้วเดินข้ามไปยังถิ่นคนยอง ชมข้าวของเครื่องใช้โบราณและภาพถ่ายเก่าแก่ในวัดต้นแก้ว
สุดท้ายจะนั่งคุยกับพ่ออุ๊ยแม่อุ๊ยที่รวมกลุ่มกันมานั่งทอผ้าทำเครื่องจักสาน หรือจะนั่งรับลมเย็นจากแม่น้ำกวง ก็ใช้เวลาเนิบช้าได้ตามแต่ใจ
เชียงคาน
อ.เชียงคาน จ.เลย
หากคุณมองหาเมืองที่สงบเรียบง่ายกับวิถีชีวิตของผู้คนที่ดูราวจะดำเนินไปอย่างช้าๆ ไร้ความรีบร้อน เช่นเดียวกับเรือนแถวอาคารไม้หลังเก่าที่อยู่มาเนิ่นนาน คอยเฝ้ามองลำน้ำโขงไหลเลียบฝั่งไปเอื่อยๆขอแนะนำให้คุณเดินทางมาที่นี่...เชียงคาน เมืองเล็กๆ ซึ่งกำลังเริ่มเป็นที่สนใจของผู้ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ
ด้วยความที่เป็นเมืองเล็กๆ การขี่จักรยานเที่ยวเมืองจึงนับว่าสะดวก ในตัวเมืองมวัดศรีคุณเมือง วัดเก่าแก่คู่เมือง จากนั้นออกจากตัวเมืองไปทางแก่งคุดคู้ แวะชมวัดท่าแขก วัดเก่าแก่โบราณริมน้ำโขง ซึ่งมีพระพุทธรูปสลักจากหินทั้งก้อน ส่วนแก่งคุดคู้คือแก่งหินใหญ่ที่กั้นลำน้ำโขงบริเวณช่วงโค้งของลำน้ำพอดี ยิ่งในยามเช้าสายหมอกจะลอยอ้อยอิ่งเหนือแก่งและลำน้ำ มีชาวบ้านนั่งเรือจับกุ้งจับปลาที่ซ่อนตัวตามแก่ง นับเป็นภาพธรรมชาติและวิถีชีวิตที่สงบงาม หรือหากต้องการนั่งเรือชมลำน้ำโขงก็มีเรือให้บริการ
ไหว้พระธาตุประ จํา วัน เกิด
พระธาตุดอยตุง
อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
บนยอดดอยที่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี องค์พระธาตุดอยตุงเป็นที่เคารพบูชาของชาวล้านนามาเนิ่นนาน ตามตำนานเล่าว่าพระเจ้าอชุตราช ผู้ครองนครโยนกนาคพันธ์เมื่อกว่าพันปีก่อนเป็นผู้สร้างขึ้น ก่อนการสร้างพระองค์ให้ทำตุงยาว 1,000 วาปักบนยอดเขา หากตุงปลิวสะบัดไปถึงที่ใดก็ให้หมายเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ ดอยลูกนี้จึงมีชื่อว่า “ดอยตุง” มาถึงทุกวันนี้
พระธาตุดอยตุงประกอบด้วยพระเจดีย์สององค์ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกไหปลาร้าของพระพุทธเจ้า ใกล้องค์พระธาตุมีรอยแยกบนพื้นซึ่งเชื่อว่าคือที่ใช้ปักตุงตามตำนาน พระธาตุดอยตุงถือเป็นพระธาตุประจำปีกุนหรือปีหมู คนเกิดปีกุนจึงควรหาโอกาสมากราบสักการะ โดยทุกๆ ปีจะมีงานนมัสการพระธาตุในวันเพ็ญเดือน 3 (ราวเดือนกุมภาพันธ์)
พระธาตุดอยสุเทพ
อ.เมือง จ.เชียงใหม่
เดินตามบันไดนาค 185 ขั้นขึ้นไปตามทางลาดชันพร้อมกับสำรวมจิตตั้งใจมั่น ในไม่ช้าองค์พระธาตุสีเหลืองทองอร่ามก็ปรากฏแก่สายตาให้เราก้มกราบสักการะด้วยความปีติ
ดอยสุเทพคือดอยศักดิ์สิทธิ์ของชาวเชียงใหม่ มีพระธาตุดอยสุเทพเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธา สร้างขึ้นในสมัยพญากือนาแห่งราชวงศ์มังรายเมื่อราว 600 ปีก่อน ในครั้งนั้นพระองค์ได้อาราธนาพระสุมนเถระจากสุโขทัยมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเชียงใหม่ พระสุมนเถระได้นำพระบรมสารีริกธาตุมาสององค์ พญากือนาจึงโปรดให้สร้างเจดีย์บรรจุพระธาตุขึ้นที่วัดสวนดอกและวัดพระธาตุดอยสุเทพนี้
พระธาตุดอยสุเทพเป็นพระธาตุประจำปีมะแมหรือปีแพะ ในอดีตผู้มาแสวงบุญต้องเดินจากเชิงดอยผ่านป่ารกทึบเพื่อขึ้นสู่ยอดดอย ซึ่งถือเป็นการบำเพ็ญเพียรในหนทางแห่งการบรรลุธรรม ต่อมาในปี พ.ศ.2478 ครูบาศรีวิชัยได้ร่วมแรงร่วมใจชาวล้านนาสร้างถนนขึ้นจนถึงบริเวณวัด
เมื่อไหว้พระธาตุแล้วอย่าลืมชมทิวทัศน์ตัวเมืองเชียงใหม่ที่สวยงาม ถ้ามีเวลาควรเดินทางขึ้นดอยต่อเพื่อไปชมดอกไม้เมืองหนาว โดยเฉพาะกุหลาบงามหลายร้อยพันธุ์จากทั่วโลกที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
พระธาตุศรีจอมทอง
อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
ความพิเศษของพระธาตุแห่งนี้คือเป็นพระบรมสารีริกธาตุที่มิได้ฝังใต้ดินภายในองค์เจดีย์เหมือนพระธาตุแห่งอื่น แต่ประดิษฐานในพระโกศห้าชั้นภายในมณฑปทรงปราสาท อยู่ในวิหารของวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร
พระบรมสารีริกธาตุนี้เป็นส่วนพระเศียรเบื้องขวา ตามตำนานเล่าว่านางเม็งและนายสอยได้พบพระบรมธาตุที่บริเวณดอยจอมทองนี้เมื่อปี พ.ศ.1995 ต่อมาสมัยพระเมืองแก้ว กษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย ซึ่งถือเป็นยุคทองของพุทธศาสนาในล้านนา พระองค์จึงได้สร้างวิหารเพื่อประดิษฐานพระบรมธาตุขึ้น
พระธาตุศรีจอมทองเป็นพระธาตุประจำปีชวดในอดีตเคยมีประเพณีอัญเชิญพระธาตุศรีจอมทองไปเมืองเชียงใหม่เพื่อให้ชาวเมืองเชียงใหม่ได้สรงน้ำบูชาทุกปี ปัจจุบันทุกปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 และวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 มีพิธีแห่พระบรมธาตุออกจากวิหารไปที่โบสถ์ให้ชาวบ้านได้สรงน้ำ
พระธาตุพนม
อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
ณ ชายฝั่งริมโขง บนแผ่นดินอีสาน คือที่ประดิษฐานแห่งพระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยและชาวลาวที่อาศัยอยู่สองฝั่งลำน้ำ องค์พระธาตุมีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยรูปทรงคล้ายกลีบดอกบัวตูม บนองค์พระธาตุประดับลายดอกไม้และพรรณพฤกษาแลดูอ่อนช้อย ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกหน้าอกของพระพุทธเจ้า
ตามตำนานเล่าว่ากษัตริย์ห้าองค์ได้ร่วมกันสร้างพระธาตุพนมขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.8 โดยเป็นพระธาตุขนาดเล็กสูงเพียง 2 วา ต่อมาภายหลังจึงได้รับการบูรณะต่อเติมให้สูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลากว่าพันปีมีการบูรณะรวมแล้วถึงหกครั้งกระทั่งในปี พ.ศ.2518 ได้เกิดเหตุพระธาตุพนมพังทลายลง จึงต้องมีการบูรณะพระธาตุขึ้นใหม่จนเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ.2522 มีความสูงถึง 43 เมตร
พระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำปีวอกหรือปีลิง และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันอาทิตย์ทุกปีจะมีงานนมัสการพระธาตุพนมในวันขึ้น 10 ค่ำถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3(ประมาณเดือนกุมภาพันธ์)
พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช
อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
พระบรมธาตุเจดีย์เป็นองค์พระธาตุทรงลังกาหรือระฆังคว่ำที่มีขนาดสูงใหญ่มาก โดยสูงถึงกว่า 70 เมตร ส่วนปลียอดหุ้มทองคำหนักกว่า 200 กิโลกรัม ประดิษฐานเป็นศูนย์รวมจิตใจและศรัทธาของชาวใต้มานานนับพันปี
ตามตำนานว่าพระบรมธาตุเจดีย์สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช(พระเจ้าจันทรภานุ) แห่งแคว้นตามพรลิงค์ที่เจริญรุ่งเรืองอยู่ ณดินแดนนี้เมื่อกว่า 700 ปีก่อน ภายในพระบรมธาตุเจดีย์บรรจุพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งมีตำนานเล่าขานมากมาย ก่อให้เกิดความเคารพศรัทธาอย่างสูง จนมีผู้นำสิ่งของมีค่ามาถวายเป็นเครื่องสักการะนับหมื่นชิ้น ทั้งต้นไม้เงิน ต้นไม้ทอง เงิน พระพุทธรูปทองคำ แหวน กำไล ฯลฯ
ในวันมาฆบูชาและวันวิสาขบูชาจะมีประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน คือประเพณีแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ ที่ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศจะพากันมาร่วมงานบุญอันยิ่งใหญ่
ภายในบริเวณวัดนอกจากองค์พระบรมธาตุแล้วยังมีวิหารที่น่าสนใจชม เช่น วิหารเขียนวิหารพระม้า ฯลฯ
พระธาตุแช่แห้ง
อ.ภูเพียง จ.น่าน
แม้ดอยภูเพียงแช่แห้งจะเป็นเพียงดอยเล็กๆ นอกตัวเมืองน่าน แต่มีตำนานว่าพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาถึง และเกิดปาฎิหาริย์ เมื่อพระอมละราชได้ถวายผ้าขาวให้พระพุทธเจ้าใช้สรงน้ำ แต่ผ้านั้นได้กลายเป็นทองคำ
ต่อมาในสมัยพระยากานเมืองจึงมีการสร้างพระเจดีย์ขึ้นบนดอยแห่งนี้ เนื่องจากพระองค์ได้รับมอบพระบรมธาตุเจ็ดพระองค์ และพระพิมพ์คำ พระพิมพ์เงิน มาจากพระยาลือไทแห่งกรุงสุโขทัย จึงได้ก่อเจดีย์พระธาตุแช่แห้งขึ้น พระธาตุแช่แห้งได้รับการบูรณะมาอีกหลายครั้งจึงมีความงดงามดังที่เห็นในปัจจุบัน โดยมีรูปลักษณะคล้ายพระธาตุหริภุญชัยที่ จ.ลำพูน
พระธาตุแช่แห้งเป็นพระธาตุประจำปีเถาะหรือปีกระต่าย ทุกปีในวันขึ้น 11-15 ค่ำ เดือน 6 เหนือ(เดือน 4 ภาคกลางหรือประมาณเดือนมีนาคม) จะมีประเพณีหกเป็ง ไหว้พระธาตุแช่แห้ง โดยชาวบ้านจะจัดขบวนแห่เครื่องสักการะที่ประดิษฐ์จากกาบกล้วย มีการสรงน้ำและเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุและการแข่งบั้งไฟดอก
พระธาตุลำปางหลวง
อ.เกาะคา จ.ลำปาง
วัดพระธาตุลำปางหลวงตั้งอยู่บนเนินขนาดย่อม ด้านหน้ามีบันไดนาคนำขึ้นสู่ในลานวัดที่มีวิหารหลวงตั้งอยู่ ในวิหารประดิษฐานพระเจ้าล้านทองในกู่ปราสาทสีทองมลังเมลือง ด้านหลังวิหารคือองค์พระธาตุลำปางหลวง เป็นเจดีย์ทรงกลมบุด้วยแผ่นทองแดงปิดทองที่เรียกว่า ทองจังโก มีความงดงามอย่างสูงตามแบบสถาปัตยกรรมล้านนาด้วยฝีมือช่างชั้นครู ถือเป็นพระธาตุประจำปีฉลูหรือปีวัว
ตามตำนานว่าบริเวณวัดแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางของเวียงโบราณชื่อลัมภกัปปนคร เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุ ซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนหน้าผากและลำคอ เชื่อว่าเป็นเวียงทางศาสนาโดยเฉพาะ ต่อมาภายหลังจึงมีบันทึกว่าเจ้าหมื่นคำเป๊ก ผู้ครองเมืองลำปางได้บูรณะพระธาตุลำปางหลวงและสร้างวิหารขึ้นในปี พ.ศ.2019
ภายในวัดพระธาตุลำปางหลวงมีสิ่งน่าชมมากมาย เช่น วิหารน้ำแต้มที่ภายในภาพจิตรกรรมเก่าแก่ ส่วนปรากฏการณ์ “ภาพเงาพระธาตุ” มีให้ชมที่หอพระพุทธบาท (ให้ขึ้นชมได้เฉพาะผู้ชาย) และที่วิหารพระพุทธ สำหรับพระแก้วดอนเต้า พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองลำปาง ประดิษฐานอยู่ในหอพระแก้ว
พระธาตุหริภุญชัย
อ.เมือง จ.ลำพูน
ตามตำนานว่าพระธาตุหริภุญชัยสร้างขึ้นโดยพญาอาทิตยราชผู้ครองเมืองหริภุญชัยเมื่อราว พ.ศ.1420 โดยพระองค์อุทิศพระราชวังของพระองค์เพื่อสร้างวัดและพระธาตุเจดีย์ขึ้นเป็นพุทธบูชา เนื่องด้วยมีการดำมาขวางขณะที่พระองค์จะเสด็จลงห้องพระบังคน ภายหลังจึงทรงทราบว่าได้พระราชวังนั้นมีพระบรมสารีริกธาตุ นับแต่นั้นพระธาตุหริภุญชัยก็ได้รับการบูรณะมาหลายครั้ง และเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาในแผ่นดินล้านนามาถึงปัจจุบัน
พระธาตุหริภุญชัยเป็นพระธาตุประจำปีระกาหรือปีไก่ ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงล้านนาหุ้มแผ่นทองสีเหลืองอร่ามทั้งองค์ ก่อนเข้าเขตวัดจะต้องผ่านซุ้มประตูโขงที่ประดับลายปูนปั้นงดงามมาก หน้าองค์พระธาตุคือวิหารหลวง เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วขาวซึ่งจำลองมาจากวัดเชียงมั่น นับถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก
โดยรอบองค์พระธาตุมีหลายสิ่งน่าชม เช่น หอไตรสองชั้นแบบศิลปะล้านนาที่หาชมได้ยาก วิหารพระกลักเกลือซึ่งควรเข้าไปกราบสักการะ
ทุกปีในวันเพ็ญเดือน 6 มีงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุหริภุญชัยซึ่งชาวบ้านจะมาร่วมงานกันอย่างเนืองแน่น
พระธาตุศรีสองรัก
อ.ด่านซ้าย จ.เลย
ย้อนเวลาไปเมื่อราว 450 ปีก่อน ณ เนินเขาริมลำน้ำหมัน รอยต่อเขตแดนแห่งอาณาจักอยุธยาและอาณาจักรล้านช้าง สมเด็จพระมหาจักรพรรดิและสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนกันและกัน พร้อมกับสร้างพระธาตุเจดีย์ศรีสองรักขึ้นเป็นสักขี
พระธาตุศรีสองรักเป็นพระเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทรงบัวเหลี่ยม ภายในองค์พระธาตุเชื่อว่ากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ได้บรรจุสิ่งชองศักดิ์สิทธิ์ไว้เช่น พระพุทธรูป พระธรรมคัมภีร์ ในวันเพ็ญเดือน 6 หรือวันวิสาขชูชา จะมีงานนมัสการพระธาตุ 3 วัน 3 คืน ชาวบ้านจะมีสิ่งสักการบูชาองค์พระธาตุอันเป็นเอกลักษณ์คือ “ต้นผึ้ง” และถือคติห้าวสวมใส่เสื้อผ้าสีแดงเข้าในเขตงาน หรือนำดอกไม้สีแดงมาบูชา
อ.ด่านซ้ายยังมีงานประเพณีที่โด่งดังไปทั่วประเทศในราวเดือนมิถุนายนของทุกปี คือ ประเพณีแห่ผีตาโขน ซึ่งจัดขึ้นในงานบุญหลวงที่ประกอบด้วยงานบุญพระเวส งานบุญบังไฟและงานแห่ผีตาโขน
พระบรมธาตุไชยา
อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
พระบรมธาตุไชยาเป็นพระธาตุทรงสี่เหลี่ยมจัตุรมุขซ้อนชั้นลดหลั่นกัน และมีสถูปเจดีย์ขนาดเล็กประดับตามมุมแลดูสลับซับซ้อน ประดิษฐานเป็นฯนย์กลางแห่งความศรัทธามาตั้งแต่สมัยศรีวิชัยนับเนื่องจนถึงปัจจุบันได้กว่า 1,000 ปี ที่น่าอัศจรรย์คืออิฐที่ก่อเรียงซ้อนกันเป็นองค์พระธาตุนั้นยังคงทนอยู่ตามสภาพดั้งเดิมโดยมิได้ผ่านการบูรณะหรือเปลี่ยนแปลง จะมีก็เพียงการฉาบปูนบางๆ รอบองค์และการเสริมยอดฉัตรที่หายไปเท่านั้นเอง
ตามประวัติเล่าว่าพระบรมธาตุไชยาสร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ.1200-1500 ในยุคที่อาณาจักรศรีวิชัยรุ่งเรืองเป็นฯนย์กลางแห่งการค้า การปกครอง และพุทธศาสนานิกายมหายานในดินแดนทางใต้ไปถึงเกาะขวา
รอบองค์พระธาตุเป็นระเบียงคดประดิษฐานพระพุทธรูปรวม 180 องค์ ด้านหน้าองค์พระธาตุเป็นวิหารหลวงสร้างยื่นล้ำเข้าไปในวิหารคด เพื่อเป็นที่นมัสการพระบรมธาตุ
หากต้องการชมโบราณวัตถุหลักฐานอันรุ่งเรืองของอาณาจักรศรีวิชัยให้ไปที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
Monday, October 10, 2011
10 อันดับ น้ำตกน่าเที่ยวในหน้าหนาวนี้
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
ปลายฝนต้นหนาว สายธารสีเขียวราวมรกตของห้วยแม่ขมิ้นไหลซอกซอนมาตามผืนป่าเขียวครึ้มบนเทือกเขาหินปูน เกิดเป็นแอ่งน้ำตกกว้างใหญ่ลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ พร้อมกับม่านน้ำตกสีขาวจนนับเป็นน้ำตกหินปูนที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นมีทั้งหมดเจ็ดชั้น แต่ละชั้นมีชื่อเรียก คือ ดงว่าน ม่านขมิ้น วังหน้าผา ฉัตรแก้ว ไหลจนหลง ดงผีเสื้อและร่มเกล้า น้ำตกชั้นที่ 4 คือฉัตรแก้วเป็นชั้นที่สวยที่สุด และอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติห้วยแม่ขมิ้นเพียง 100 เมตร
การมาชมความงามของน้ำตกแห่งนี้ต้องเดินทางกันอย่างสมบุกสมบันพอสมควร โดยมีสองเส้นทางให้เลือก คือ เส้นทางถนนลูกรังจากเขื่อนศรีนครินทร์ซึ่งเหมาะสำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อ และเส้นทางลงแพขนานยนต์จากฝั่งด้าน อ.ศรีสวัสดิ์ ข้ามผืนน้ำกว้างของทะเลสาบมาที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์มีบ้านพัก ที่กางเต็นท์ และร้านอาหาร หรือพักตามแพพักริมทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ด้าน อ.ศรีสวัสดิ์ หรือบริเวณเหนือเขื่อนศรีนครินทร์
น้ำตกคลองลาน
อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
หน้าผาสูงชันตั้งตระหง่านกับมวลน้ำที่อาบเต็มหน้าผาถาโถมลงมากระทบแง่งหินและแอ่งน้ำตกเบื้องล่าง ก่อเกิดละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ แม้จะอยู่ไกลจากบริเวณน้ำตก ความเปียกชื้นจากละอองน้ำยังครอบคลุมไปถึง พร้อมๆ กับเสียงน้ำตกที่ดังก้องไปทั่วหุบเขา
น้ำตกคลองลานเป็นน้ำตกใหญ่เกิดจากลำห้วยห้าสายไหลมารวมกันเป็นลำน้ำยาวประมาณ 3 กิโลเมตร จนมาถึงหน้าผาและตกลงมาเป็นน้ำตกสูงถึง 100 เมตร กว้างประมาณ 40 เมตร ความชุ่มชื้นในบริเวณน้ำตกทำให้มีมอสส์ เฟิน โดยเฉพาะเฟินก้านดำ ขึ้นประดับตามโขดหินจนเขียวครึ้ม ส่วนกลางลำน้ำที่ไหลลงมาจากแอ่งน้ำตกมีต้นไคร้น้ำขึ้นประดับราวกับสวนธรรมชาติ โดยมีไม้ใหญ่ขึ้นโอบคลุมสองฝั่งธารน้ำตก
การเดินทางมาน้ำตกคลองลานสะดวกสบายด้วยเส้นทางถนนที่ลาดยางอย่างดี แต่การจะฝ่าละอองน้ำเข้าไปจนถึงฐานใต้น้ำตกต้องการความกล้าและความไม่หวาดหวั่นต่อความเย็นยะเยือกของละอองน้ำที่สาดซัดอยู่รอบตัว
อุทยานแห่งชาติคลองลานมีบ้านพัก ที่กางเต็นท์ และร้านอาหารบริการ โดยเฉพาะลานกางเต็นท์เล็กๆ ริมธารน้ำตกที่นี่นับเป็นลานกางเต็นท์กลางธรรมชาติที่เหมาะมากสำหรับผู้รักความสงบ
น้ำตกแม่ยะ
อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
จากเบื้องล่าง สายธารน้ำสีขาวไหลจากจุดสูงสุดบนยอดน้ำตกลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ นับไม่ถ้วนแผ่กระจายปกคลุมชั้นหินที่ซ้อนทับกันเป็นผาหินกว้างใหญ่ ไม่เกินจริงเลยที่จะกล่าวว่านี่คือน้ำตกที่งดงามและสูงใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย
น้ำตกแม่ยะมีความสูงราว 280 เมตร และกว้างถึง 100 เมตร โดยนับชั้นน้ำตกรวมกันแล้วได้ถึง 30 ชั้น จนเป็นภาพอันท้าทายสำหรับการเดินลัดเลาะตามโขดหินที่สายน้ำไหลหลั่งมา โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่ปริมาณน้ำไม่มากจนเกินไป และน้ำใสสะอาดไม่ขุ่นเหมือนยามหน้าฝนที่น้ำป่ารุนแรงชะตะกอนมาด้วย หรือหากจะเล่นน้ำตกในแอ่งน้ำเบื้องล่างก็เล่นได้อย่างปลอดภัย
น้ำตกแม่ยะอยู่ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จากทางหลวงที่ขึ้นดอยอินทนนท์มีถนนแยกเข้าตัวน้ำตกซึ่งเป็นทางเข้าหมู่บ้าน สภาพทางค่อนข้างแคบและขรุขระขึ้นลงเขาชัน ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง และคอยสังเกตป้ายบอกทางไปน้ำตกให้ดี
บริเวณน้ำตกแม่ยะสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ มีร้านอาหารและร้านค้าบริการ
น้ำตกทีลอซู
อ.อุ้มผาง จ.ตาก
เดินลัดเลาะไปตามทางเดินป่าแคบๆที่ปกคลุมด้วยไม้ใหญ่ และป่าไผ่เสียงน้ำตกเริ่มดังมาจากป่าทึบเบื้องหน้า แล้วฉับพลันเส้นทางเดินก็สิ้นสุด พร้อมกับเผยให้เราตะลึงงันกับความอลังการของน้ำตกใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งซ่อนตัวอยู่กลางป่าลึกกับความยากลำบากในการเดินทางเข้าถึงที่วัดใจผู้มาเยือนทุกคน
น้ำตกทีลอซูมีลักษณะเป็นกลุ่มน้ำตกที่ไหลลงมาจากบริเวณหน้าผาเดียวกันซึ่งกว้างถึงกว่า 400 เมตรและสูงถึง 200 เมตร สายน้ำที่ถั่งโถมลงมาส่งละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ส่วนด้านหน้าของน้ำตกเป็นแอ่งน้ำสีเขียวมรกตที่ลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ นับเป็นฉากธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่งดงามเกินบรรยาย
การเดินทางมาน้ำตกทีลอซู จาก อ.แม่สอดต้องผ่านเส้นทางถนนข้ามเขาที่ทั้งสูงชัน แคบ และคดเคี่ยว มีทางโค้งถึง 1,219 โค้ง และจาก อ.อุ้มผางไปน้ำตกทีลอซู เส้นทางรถยนต์จะเปิดเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคมถึงพฤษภาคมซึ่งต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อหรือรถกระบะเท่านั้น หรือใช้เส้นทางน้ำ คือการล่องแพยางแล้วเดินป่าเข้าถึงตัวน้ำตก ซึ่งจะได้เที่ยวชมธรรมชาติสองฝั่งลำน้ำที่น่าประทับใจ เช่น น้ำตกทีลอจ่อ บ่อน้ำร้อน แก่งตะโคะบิ ผาผึ้ง ผาเลือด เป็นต้น
น้ำตกทีลอซูอยู่ในพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง บริเวณที่ทำการเขตฯ มีที่กางเต็นท์บริการ หรือซื้อแพ็กเกจทัวร์มากับบริษัทนำเที่ยวก็เป็นที่นิยมกัน โดยบริษัทนำเที่ยวส่วนใหญ่มีรีสอร์ตหรือที่พักบริการอยู่ในตัว อ.อุ้มผาง
น้ำตกเหวนรก
อ.เมือง จ.นครนายก
จากบริเวณลานจอดรถริมถนน เดินไปตามทางป่าเกือบ 1 กิโลเมตร จากนั้นค่อยๆ ไต่ลงไปตามทางบันไดที่ลื่น แคบ และสูงชันกว่า 160 ชั้นก็จะถึงเฉลียงชมสายน้ำที่ตกจากผาสูงอย่างรุนแรงส่งละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่ว นี่เป็นเพียงน้ำตกชั้นบนสุดในสามชั้นของน้ำตกเหวนรกที่รวมกันแล้วมีความสูงหลายร้อยเมตร แต่ละชั้นมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่คั่นกลาง แต่ไม่สามารถเล่นน้ำได้ด้วยอันตรายจากความรุนแรงของกระแสน้ำ
เส้นทางเดินป่าไปน้ำตกเหวนรกนั้นจะผ่านป่าดิบชื้นที่หนาทึบมีมอสส์ เฟิน ขึ้นปกคลุมตามลำต้นไม้ใหญ่ หากเดินป่าในช่วงเช้าๆ แนะนำให้เดินเงียบๆ อาจได้พบสัตว์ป่าและนกหลายชนิด เมื่อเดินไปจนเกือบถึงบริเวณน้ำตกจะพบกับท่อนเสาคอนกรีตปักเป็นกำแพงป้องกันโขลงข้างป่าไม่ให้เดินผ่านน้ำตก เนื่องจากเคยเกิดอุบัติเหตุช้างป่าตกเหวมาแล้วหลายครั้ง
น่าเสียดายที่มีเยงน้ำตกชั้นบนสุดเท่านั้นที่เราสามารถชมน้ำตกเหวนรกนี้ได้อย่างปลอดภัยแต่เพียงแค่ชั้นนี้หลายคนก็หวาดหวั่นกับการเดินลงมาชมแล้ว ยังไม่รวมถึงขากลับที่ต้องเดินขึ้นเขาชันกลับขึ้นไปอีก
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีบ้านพัก ที่กางเต็นท์ ร้านอาหาร และร้านค้าบริการจัดว่าสะดวกสบายมาก
น้ำตกกรุงชิง
อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช
นี่คือน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ เป็นรางวัลสำหรับผู้รักธรรมชาติผู้บากบั่นพร้อมจะก้าวเดินไปตามเส้นทางเดินป่าระยะทางเกือบ 4 กิโลเมตรกว่าจะถึงบริเวณชั้นบนสุดของน้ำตกซึ่งมีทั้งหมดเจ็ดชั้น จากนั้นต้องเดินลัดเลาะหน้าผาชันลงไปยังชั้นที่ต่ำกว่าอย่างยากลำบาก โดยมีจุดหมายปลายทางสำหรับทุกคนที่มาถึงคือ หนานฝนแสนห่า น้ำตกชั้นที่ 2 ซึ่งมีความงามและยิ่งใหญ่มาก
หนานฝนแสนห่าเป็นน้ำตกที่ไหลหลั่งลงมาตามหน้าผ้าหินลาดเอียงที่สูงราว 100 เมตร เกิดละอองฟุ้งกระจายไปทั่วคล้ายสายฝนจนเป็นที่มาของชื่อน้ำตก
ตลอดเส้นทางเดินป่าสู่น้ำตกกรุงชิงผ่านป่าดงดิบทึบซึ่งจะได้พบเห็นสิ่งน่าสนใจมากมาย เช่น ดงมหาสดำซึ่งเป็นเฟินต้นขนาดใหญ่ ต้นหลุมพอยักษ์ ถ้ำประตูชัย ป่ามังคุด ฯลฯ และยังมีโอกาสพบนกหายาก เช่น นกเงือกหลายชนิด
น้ำตกกรุงชิงอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวง บริเวณหน่วยพิทักษ์ อช.เขาหลวงที่ ขล.4(น้ำตกกรุงชิง) มีบ้านพัก ที่กางเต็นท์ และร้านอาหารให้บริการ
น้ำตกตาดหมอก
อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
หนึ่งในน้ำตกสูงที่สุดในเมืองไทย ด้วยความสูงของน้ำตกที่ไหลต่อเนื่องลงมาจากหน้าผาสูงกว่า 200 เมตร สายน้ำตกทิ้งตัวลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ส่งละอองน้ำฟุ้งกระจายราวกับหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณจนเป็นที่มาของชื่อน้ำตก ในช่วงน้ำมากจะมีละอองน้ำสาดซัดจนเราไม่สามารถยืนอยู่ใกล้น้ำตกได้
การเดินทางสู่น้ำตกตาดหมอกจะผ่านป่าดงดิบร่มครึ้มที่มีไม้ใหญ่มากมาย ระยะทางรวมประมาณ 2 กิโลเมตร เส้นทางเลาะเลียบลำธาร บางช่วงต้องเดินลุยน้ำ อาจพบเห็ดมอสส์ เฟิน และดอกไม้ป่าสีสันสวยงามทางช่วงสุดท้ายเป็นทางบันไดปูนขึ้นเขาสูงชัน ทางค่อนข้างลื่นต้องเดินด้วยความระมัดระวัง
ก่อนถึงน้ำตกตาดหมอกมีทางแยกเข้าน้ำตกสองนางซึ่งมีความสวยงามด้วยชั้นน้ำตกขนาดเล็กใหญ่รวมถึง 12 ชั้น บริเวณน้ำตกชั้นล่างมีธารน้ำเล็กๆ ที่ลงเล่นน้ำได้
ความจริงการเดินทางมาน้ำตกตาดหมอกไม่ยากลำบากเพราะอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเพชรบูรณ์นัก แต่กลับเป็นน้ำตกที่แอบซ่อนความยิ่งใหญ่ไว้จากนักท่องเที่ยวเพราะยังมีน้อยคนนักที่ได้เคยมาสัมผัส
น้ำตกแม่สุรินทร์
อ.ขุนยวน จ.แม่ฮ่องสอน
จากศาลาชมวิวจะมองเห็นน้ำตกแม่สุรินทร์ทิ้งตัวลงจากซอกเขาฝั่งตรงข้ามเป็นทางน้ำขาวพลิ้วไหวกลางความเขียวขจีของแมกไม้และขุนเขา ด้วยความสูงถึงเกือบ 200 เมตร เสียงน้ำตกจึงดังกึกก้องไปทั่ว
แต่หากจะสัมผัสน้ำตกแม่สุรินทร์อย่างใกล้ชิด ต้องวัดใจด้วยการเดินดิ่งลงสู่ฐานน้ำตกเบื้องล่าง ซึ่งขอเตือนว่าเหมาะสำหรับผู้มีสภาพร่างกายพร้อมเท่านั้นเพราะเส้นทางดิ่งชันอย่างมาก ระยะทางไปกลับเกือบ 3 กิโลเมตร แต่รางวัลคือภาพน้ำตกทิ้งตัวจากผาสูงลงสู่กองหินระเกะระกะเบื้องล่าง ซึ่งมีน้อยคนลงมาจนถึงบริเวณนี้เพราะส่วนใหญ่เพียงมองน้ำตกจากจุดชมวิวก็ถอดใจแล้ว
การมาชมน้ำตกแม่สุรินทร์แนะนำให้มาช่วงปลายฝนต้นหนาวประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคมเพราะน้ำมากและสวยงามที่สุด และยังเป็นช่วงดอกบัวตองบานสะพรั่งเหลืองอร่ามเต็มดอยแม่อูคองดงามมาก
อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์มีบ้านพัก ที่กางเต็นท์ ร้านอาหาร และร้านค้าบริการหรือพักกางเต็นท์ที่บริเวณดอยแม่อูคอ หรือหาที่พักใน อ.ขุนยวน
น้ำตกโตนงาช้าง
อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
น้ำตกโตนงาช้างได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดของภาคใต้ คำว่าโตนแปลว่าน้ำตก ส่วนคำว่างาช้างมาจากลักษณะของน้ำตกชั้นที่ 3 ซึ่งสายน้ำได้ไหลผ่านแผ่นหินแยกออกเป็นสองสายดูคล้ายกับงาช้าง คั่นกลางด้วยแผ่นหินสีดำเหมือนหัวช้าง
น้ำตกโตนงาช้างอยู่กลางป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์จึงมีน้ำตลอดทั้งปี น้ำตกมีทั้งหมดเจ็ดชั้น ชั้นแรกชื่อโตนบ้า จากน้ำตกชั้นที่ 2 ต้องเดินขึ้นตามทางสูงชันอีกเกือบ 500 เมตร จึงจะถึงน้ำตกชั้นที่ 3 ชื่อโตนงาช้าง เส้นทางบางช่วงเดินขึ้นลำบากเพราะเป็นแผ่นหินขนาดใหญ่ ต้องใช้ความระมัดระวังมากจากชั้นที่ 3 สามารถมองเห็นทิวทัศน์ผืนป่าทึบเบื้องล่าง หากจะเดินขึ้นน้ำตกชั้นสูงขึ้นไปก็ต้องเป็นผู้มีกำลังแข็งแรงทีเดียวเพราะทางสูงชันและลำบากมาก โดยน้ำตกชั้นถัดๆ ไปมีชื่อตามลำดับว่า โตนน้ำปล่อย โตนฤาษีคอยบ่อและโตนเหม็ดชุน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะขึ้นมาถึงชั้นที่ 3 หรือไปต่อถึงชั้นที่ 4 เป็นอย่างมาก
การเดินทางเข้าน้ำตกโตนงาช้างเส้นทางถนนสะดวกสบายเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่ง
น้ำตกโตนงาช้างอยู่ในพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง มีบ้านพักและที่กางเต็นท์ให้บริการ หรือหาที่พักใน อ.หาดใหญ่
น้ำตกเจ็ดสี
อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย
สายน้ำไหลตกจากหน้าผาหินสูงทะมึนที่แผ่เป็นกว้างลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างพร้อมกับส่งละอองน้ำฟุ้งกระจาย หากยืนชมในจุดที่ละอองน้ำทำมุมหักเหกับแสงแดดพอดีก็จะเห็นเป็นสีรุ้งเจ็ดสี จนเป็นที่มาของชื่อน้ำตกเจ็ดสี หนึ่งในน้ำตกงามแห่งอีสานตอนบน
น้ำตกเจ็ดสีมีทั้งหมดสี่ชั้น เส้นทางเดินขึ้นน้ำตกแห่งนี้แตกต่างจากการเดินขึ้นชมน้ำตกภาคอื่นๆ เพราะต้องเดินขึ้นไปตามลานหินที่มีธารน้ำไหลผ่านจนถึงน้ำตกชั้นที่ 4 ซึ่งมีความงามที่สุด ด้านล่างน้ำตกเป็นแอ่งน้ำตื้นที่เล่นน้ำได้และมีพลาญหินให้นั่งพักผ่อน
การเดินทางมาน้ำตกเจ็ดสีค่อนข้างสะดวก จากจุดจอดรถเดินไปอีกไม่ไกลก็ถึงตัวน้ำตก ทำให้มีคนเดินทางเที่ยวมากพอสมควร
น้ำตกเจ็ดสีอยู่ในพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าดอนเสียด ไม่มีบ้านพักหรือที่กางเต็นท์ให้บริการ ที่พักใกล้ที่สุดและสะดวกที่สุดคือ อ.บึงกาฬ
ที่เที่ยวน้ำตก
Wednesday, October 5, 2011
10 อันดับ ยอดดอยที่น่าไป ในหน้าหนาวนี้
ภูชี้ฟ้า
อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
ที่นี่คือจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทยซึ่งไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ภาพขณะดวงตะวันค่อยๆ โผล่พ้นขอบฟ้าและทะเลหมอกขาวแผ่คลุมกว้างไกล มียอดดอยโผล่เหนือทะเลหมอกราวเกาะแก่ง กับแนวหน้าผาชันอันเป็นเอกลักษณ์จนกลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดฮิต คือความงามที่สะกดสายตาผู้มาเยือนในท่ามกลางความหนาวเย็นทุกคน
ดอยผ้าห่มปก
อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
ด้วยความสูง 2,285 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทิวทัศน์จากบนดอยผ้าห่มปกซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศจึงตระการตามาก หากมองไปทางทิศตะวันตกจะเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนในประเทศพม่า ทางทิศใต้เห็นยอดดอยหลวงเชียงดาว ทางทิศตะวันออกเห็น อ.แม่อาย ฝาง และไชยปราการ ในหน้าหนาวทะเลหมอกขาวโพลนจะปกคลุมทั่วหุบเขาเบื้องล่าง จนเป็นจุดชมทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง
ดอยหลวงเชียงดาว
อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
ด้วยฉากตระการตาของทิวเขารอบตัวแบบ 360 องศาเหนือขอบฟ้า ณ ระดับความสูง 2,275 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้ยอดดอยเชียงดาวคือหนึ่งในเมืองไทยที่คุณต้องมาสัมผัสให้ได้สักครั้งในชีวิต
แม้จะมีความสูงเป็นอันดับ 3 แต่ดอยหลวงเชียงดาวคือเทือกเขาหินปูนที่สูงที่สุดในประเทศ ทัศนียภาพของบรรดายอดเขาหินปูนหยักแหลมตะปุ่มตะป่ำสร้างความตื่นตาตื่นใจราวกับฉากในภาพยนตร์เหนือจินตนาการ ตลอดเส้นทางเดินที่ไต่ไปตามสันเขายังเต็มไปด้วยดอกไม้และพืชพันธุ์ที่อาศัยจำเพาะบนเทือกเขาหินปูนที่มีอากาศหนาวเย็น เช่น ค้อเชียงดาว กุหลาบขาวเชียงดาว
ดอยอ่างขาง
อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
แม้ดอยอ่างขางจะอยู่สูงไม่ถึง 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งเทียบไม่ได้กับดอยอินทนนท์ที่สูงกว่า 2,500 เมตร แต่หากวัดกันที่ระดับความหนาวเย็นแล้ว ดอยอ่างขางไม่แพ้ที่ใด เพราะมีสภาพเป็นหุบเขาแอ่งกระทะ ตลอดค่ำคืนในฤดูหนาว อากาศจึงหนาวถึงขึ้นสั่นสะท้าน และเมื่อถึงเวลาก่อนฟ้าสาง นักท่องเที่ยวก็ต่างพร้อมใจกันฝ่าความเย็นยะเยือกไปยังจุดชมวิวเพื่อรอชมความงามของทะเลหมอกแผ่ปกคลุมทั่วหุบเขา
ดอยอินทนนท์
อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
“สูงสุดแดนสยาม” คือเป้าหมายที่นำพานักท่องเที่ยวมากมายให้เดินทางมาที่นี่ ด้วยความสูง 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเล ยอดดอยอินทนนท์อาจไม่ใช่จุดชมทะเลหมอกที่ดีนัก แต่กลับเป็นที่ที่ผู้มาเยือนจะได้ยืนอยู่กลางเมฆหมอกซึ่งพัดผ่านมาตลอดเวลาแทน หลายครั้งที่หมอกหนาจัดจนมองเห็นได้เพียงระยะใกล้ๆ ไม่กี่เมตรเท่านั้น ส่วนความหนาวเย็นนั้นไม่ต้องพูดถึง
ห้วยน้ำดัง
อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
จุดชมทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงที่สุดและสวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ด้วยความงามของทะเลหมอกที่ครอบคลุมทั่วหุบเขากว้างสอดสลับกับทิวเขาน้อยใหญ่ โดยมียอดดอยหลวงเชียงดาวอันโดดเด่นเหนือกลางทะเลหมอกสีขาว
ห้วยน้ำดังหรือจุดชมวิวดอยกิ่วลมอยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์เอื้องเงิน อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีลานกางเต็นท์กว้างและบ้านพักที่ผู้มาเยือนสามารถตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีพระตำหนักเอื้องเงินซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เป็นอาคารทรงซาเลต์ รอบบริเวณปลูกไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวหลายชนิดหลากสีสันโดยเฉพาะกล้วยไม้เอื้องเงินหลวงที่จะออกดอกในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม
ม่อนกิ่วลม ม่อนพูนสุดา ม่อนครูบาใส
อ.ท่าสองยาง จ.ตาก
ภาพขุนเขาสลับซับซ้อนของทิวเขาถนนธงชัยยามเช้าที่มีทะเลหมอกลอยปกคลุมเต็มหุบเขาเบื้องล่าง ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นจุดชมทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงมานาน เดิมรู้จักในชื่อดอยแม่ระเมิง แต่ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติแม่เมย
จุดชมทะเลหมอกที่อยู่ใกล้ที่ทำการอุทยานฯ ที่สุดเริ่มจากม่อนครูบาใส (คำว่าม่อนหมายถึงเนินดิน หรือเนินเขาเตี้ยๆ) บางวันจะมีหมอกลอยขึ้นมาให้เห็นใกล้มาก ถัดออกไปคือม่อนพูนสุดา และที่อยู่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ ที่สุดห่างไปราว 12 กม. คือม่อนกิ่วลม เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกสวยที่สุด ทะเลหมอกจะแผ่ปกคลุมยอดเขาจนดูคล้ายเกาะแก่ง เมื่อแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้น บางวันจะย้อมทะเลหมอกจนเป็นสีทอง
ดอยภูคา
อ.ปัว จ.น่าน
ดอยภูคามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศเพราะเป็นสถานที่ค้นพบพันธุ์ไม้ชนิดใหม่ของโลก ซึ่งได้รับการตั้งชื่อว่า “ชมพูภูคา” ตามสีของดอกและแหล่งที่พบชมพูภูคาเป็นไม้ยืนต้นสูง ขึ้นอยู่ตามที่ลาดชันในป่าดิบเขาที่หนาวเย็น โดยจะออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมของทุกปี นอกจากจะได้ชมต้นชมพูภูคาแล้ว ผู้มาเยือนดอยสูงแห่งนี้ยังจะได้ชมทิวทัศน์ทะเลหมอกขาวที่แผ่ปกคลุมหุบเขาเบื้องล่างซึ่งงดงามไม่แพ้ที่อื่นใดด้วย
ภูกระดึง
อ.ภูกระดึง จ.เลย
แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งของประเทศ เลื่องลือด้วยความยากลำบากของการเดินขึ้นยอดภูกับระยะทางราว 5 กม. จนเป็นสิ่งที่หลายคนไขว่คว้าว่า “ครั้งหนึ่งในชีวิต” ข้าคือผู้พิชิตภูกระดึง
นอกจากความงดงามของทุ่งหญ้าป่าสนกว้างใหญ่บนยอดภูแล้ว ความหนาวเย็นและทิวทัศน์อันตระการตาตามหน้าผาก็เป็นแรงดึงดูดให้คนนับพันนับหมื่นบุกบั่นขึ้นมาเที่ยวภูกระดึงในแต่ละปี โดยเฉพาะที่ผานกแอ่นซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ในช่วงหน้าหนาวจะมีทะเลหมอกแผ่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่เบื้องล่างสวยงามมาก
ภูเรือ
อ.ภูเรือ จ.เลย
ภาพทิวทัศน์กว้างไกลสุดสายตา ทะเลหมอกลอยอ้อยอิ่งในหุบเขาสลับซับซ้อน คือเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวที่ภูเรือ แม้ยอดภูแห่งนี้จะไม่ติดอันดับ 1 ใน 10 ภูเขาสูงที่สุดในประเทศไทย แต่ถ้าเป็นเรื่องความหนาวเย็นละก็ ภูเรือติดอันดับต้นๆ เลยทีเดียว โดยเฉพาะ อ.ภูเรือ เป็นอำเภอที่หนาวที่สุดในประเทศไทย บางปีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส จนเกิดแม่คะนิ้งเกาะตามใบหญ้าในยามเช้า
Monday, October 3, 2011
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งอยู่ที่อำเภอภูกระดึงในจังหวัดเลย เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทย เนื่องจากมีธรรมชาติที่สวยงาม ในแต่ละปีจึงมีคนมาเที่ยวเฉลี่ยหลายหมื่นคน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวมักมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปพักผ่อนบนภูกระดึงจำนวนมาก ภูกระดึงได้รับการจัดตั้งเป็นป่าสงวนแห่งชาติในปี พ.ศ. 2486 และเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2502 โดยเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่สองถัดจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
คำว่า "ภูกระดึง" มาจากคำว่า ภู แปลว่า ภูเขา และ กระดึง แปลว่า กระดิ่ง เป็นภาษาพื้นเมืองของจังหวัดเลย ด้วยเหตุนี้ ภูกระดึง จึงอาจแปลได้ว่า ระฆังใหญ่ ชื่อนี้มาจากเรื่องเล่าที่ว่าในวันพระชาวบ้านมักได้ยินเสียงกระดิ่งหรือระฆังจากภูเขาลูกนี้เสมอ เล่ากันว่าเป็นระฆังของพระอินทร์ ส่วนอีกข้อสันนิษฐานหนึ่งคือในบริเวณบางส่วนของยอดเขาหากเดินหนักๆหรือใช้ไม้กระทุ้งก็จะมีเสียงก้องคล้ายระฆังซึ่งเกิดจากโพรงข้างใต้ จึงได้รับการตั้งชื่อว่า "ภูกระดึง"
สภาพอากาศบนยอดภูกระดึง มีปริมาณหยาดน้ำฟ้าเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของปริมาณหยาดน้ำฟ้าบนที่ราบเชิงเขา สาเหตุมาจากอิทธิพลของเมฆและหมอกที่ปกคลุมยอดเขา ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 90% อุณหภูมิเฉลี่ย 19.7 °C ในฤดูหนาวช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม มีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ระหว่าง 0-10 °C อุณหภูมิสูงสุดอยู่ระหว่าง 21-24 °C ส่วนในฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ระหว่าง 12-19 °C อุณหภูมิสูงสุดอยู่ระหว่าง 23-30 °C อากาศบนยอดภูกระดึงมักจะแปรปรวน มีเมฆหมอกลอยต่ำปกคลุมบ่อยครั้ง อากาศจึงค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปี
อุทยานแห่งชาติภูกระดึงเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทยเนื่องจากมีธรรมชาติที่สวยงาม ในแต่ละปีจึงมีคนมาเที่ยวเฉลี่ยหลายหมื่นคน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวมักมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปพักผ่อนบนภูกระดึงจำนวนมาก เฉพาะบนยอดเขาภูกระดึงมีการปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-30 กันยายนของทุกปี และเปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม-31 พฤษภาคมของทุกปี
เดินทางโดยรถยนต์ สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง
1. เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และอำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 (เลย-ขอนแก่น) และเลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
2. ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี นครราชสีมา จนถึงจังหวัดขอนแก่นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่านและตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
3. เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 201 ผ่านจังหวัดชัยภูมิ อำเภอภูเขียว แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ จากนั้นเดินทางเช่นเดียวกับเส้นทางที่ 2
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ทั้งบนยอดภูกระดึง และบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติซึ่งอยู่ด้านล่าง ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.
ที่พัก ภูกระดึง ราคาประหยัด
ข้อมูลจาก
th.wikipedia.org
Subscribe to:
Posts (Atom)