ตลาดนัดสินค้าหลากสไตล์

นอกจากจะเป็นแหล่งที่รวมชาวต่างชาติแล้ว สิ่งที่น่าให้ความสนใจก็คือ การค้าขายของพ่อค้าแม่ขายในย่านนี้ ที่ต่างมีแนวคิดและนำของแปลกๆใหม่ๆ จากถิ่นฐานต่างๆของประเทศไทยมาจำหน่าย ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมของสินค้าทุกภูมิภาค โดยเฉพาะสินค้าของที่ระลึกในราคาไม่ถูกไม่แพงจนเกินไป สินค้าที่นี่มีสารพัด ตั้งแต่ กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า กางเกง แผ่นเพลง แผ่นหนัง นาฬิกา ของกระจุกกระจิก ฯลฯ

                นอกจากนี้ยังมีธุรกิจบริการต่างๆ ครบวงจร ทั้งบริการทำผม ทำเล็บ โทรศัพท์ทางไกล โทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ ร้านอินเตอร์เน็ต บริษัททัวร์ ร้านนวดและสปา มีสปาเท้า แบบใหม่อย่างสปาปลา บริการตัดผม ถักผม สักผิวหนัง วาดภาพเหมือน หรือร้านขายหนังสือเก่า ธนาคาร บริการแลกเงิน ตู้เอทีเอ็ม คลินิกเพื่อการรักษา จนอาจเรียกว่า ไม่มีอะไรที่ไม่มีที่ ถนนข้าวสาร แม้กระทั่งโรงเรียนเก่าแก่อย่างพิมานวิทย์ ซึ่งนับเป็นโรงเรียนแห่งเดียวที่ตั้งอยู่บนถนนข้าวสาร

                ในทุกปีช่วงวันที่ 13-15 เมษายน ถนนข้าวสาร จะมีกิจกรรมเด่นที่มีชื่อเสียงมาก นั่นคือการเป็นสถานที่จัดงาน “มหาสงกรานต์” ผู้คนจากทุกสารทิศจะแห่มาเล่นน้ำวันสงกรานต์ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ และยังมีการประกวดเทพีสงกรานต์อินเตอร์จากนักท่องเที่ยวที่พักในถนนข้าวสารด้วย

                ถนนข้าวสาร อยู่ในแขวงตลาดยอด เขตพระนครกรุงเทพมหานคร อยู่ฝั่งตรงข้ามวัดชนะสงคราม ซึ่งคนไทย เชื่อว่าหากได้กราบไหว้แล้วจะทำให้ชนะในทุกๆสิ่งและอยู่ใกล้ตลาดบางลำพู มีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงเช่นหอศิลป์เจ้าฟ้า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เดินเรื่อยไปจนถึงพระบรมมหาราชวัง

                การเดินทาง สามารถเดินทางไปถนนข้าวสารได้หลายทาง โดยขึ้นรถโดยสารประจำทางสาย 3,6,30,33,64 และ 65 หรือใช้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ท่าพระอาทิตย์ ที่สะดวกที่สุดคือ รถแท็กซี่และรถสามล้อเครื่อง (ตุ๊กตุ๊ก)

ประเพณีนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์

คนนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพศรัทธาองค์พระปฐมเจดีย์ ปูชนียสถานสำคัญ ช่วงงานนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ จึงมีผู้มาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก

                ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากพระองค์โปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์องค์พระปฐมเจดีย์ครั้งใหญ่แล้ว พระองค์ยังโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองเจดีย์บูชา เริ่มตั้งแต่บ้านท่านา ต.นครชัยศรี อ.นครชัยศรี มาจนถึงกลางเมืองนครปฐม เพื่อให้เป็นเส้นทางสำหรับนมัสการพระปฐมเจดีย์ด้วย ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการปฏิสังขรณ์องค์พระปฐมเจดีย์สืบมา และมีการจัดงานนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์เป็นประจำทุกปี

                วัดที่จัดงาน วันขึ้น 12 ค่ำ ถึงวันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 (ประมาณเดือนพฤศจิกายน) รวม 9 วัน 9 คืน บริเวณรอบองค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม

                น่าแวะ น่าสนใจ

                ๐ร่วมขบวนแห่ผ้าห่มองค์พระปฐมเจดีย์ จัดขึ้นในวันนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ คือวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 วันแรกของงาน การแห่ผ้านี้จัดอีกครั้งในวันสงกรานต์ด้วย

          ในขบวนแห่อัญเชิญผ้าสีเหลืองอย่างจีวรพระสงฆ์อันเป็นผ้าผืนยาวราว 80-100 เมตร ขึ้นไปพันรอบเสาหาน(อยู่เหนือส่วนที่เรียกว่าบัลลังก์ขององค์เจดีย์ขึ้นไป) ผู้ร่วมขบวนแห่จะช่วยกันจับขึงผ้าไว้บนบ่าเดินเวียนรอบองค์พระปฐมเจดีย์หนึ่งรอบ แล้วนำมาพักไว้ที่หน้าองค์พระปฐมเจดีย์ ให้พุทธศาสนิกชนได้เขียนคำอุทิศส่วนกุศล กระทั่งถึงวันเพ็ญ เดือน 12 จึงนำผ้าไปเวียนรอบองค์เจดีย์ด้านในแบบทักษิณาวรรตสามรอบ แล้วจึงนำขึ้นพันรอบเสาหานของพระเจดีย์

                ๐เที่ยวบรรยากาศงานวัด ช่วงวันงานนอกจากจะมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าของหน่วยงานต่างๆ เช่นร้านเหล่ากาชาดจังหวัด การแสดงของนักเรียน การประกวดผลิตผลทางการเกษตร การประกวดการเล่นกีฬาไทยแล้วยังมีการปิดทองพระพุทธรูปสำคัญ ดังเช่นพระร่วงโรจนฤทธิ์ พระพุทธไสยาสน์ และพระพุทธรูปประจำวิหารทั้งสี่ทิศ การเวียนเทียนสมโภชองค์พระในวันเพ็ญ เดือน 12 และการแสดงมหรสพสมโภชตลอดงาน ทั้งวงปี่พาทย์ ลิเก ลำตัด ภาพยนตร์ และดนตรี

งานวันส้มโอมณฑลนครชัยศรี

ส้มโอเป็นผลไม้ที่ปลูกกันมากใน อ.นครชัยศรี มีรสชาติอร่อยถูกปากนักชิม จนกลายเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียง เป็นที่เชิดหน้าชูตาของจังหวัด

                วันที่จัดงาน จัดเป็นเวลา 9 วัน ช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม บริเวณวัดไร่ขิง อ.สามพราน

                น่าแวะ น่าสนใจ

                ช่วงวันงานมีกิจกรรมการประกวดส้มโอพันธุ์ขาวน้ำผึ้งและพันธุ์ทองดี การประกวดส้มโอขนาดใหญ่โดยไม่จำกัดสายพันธุ์ นอกจากนี้ก็มีการจำหน่ายส้มโอและสินค้าอุปโภคบริโภค ที่สำคัญคือทางวัดไร่ขิงเปิดให้ศาสนิกชนเข้ามานมัสการปิดทองหลวงพ่อวัดไร่ขิงด้วย

งานนมัสการปิดทองหลวงพ่อวัดไร่ขิง

หลวงพ่อวัดไร่ขิงเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนทั้งประเทศให้ความนับถือ กล่าวกันว่าผู้ศรัทธาไปบนบานเรื่องใดก็มักประสบผลสำเร็จในช่วงงานนมัสการปิดทองหลวงพ่อฯ จึงมีผู้ศรัทธาเข้าร่วมงานอย่างเนืองแน่น

                วันที่จัดงาน วันขึ้น 13 ค่ำ ถึงวันแรม 4 ค่ำ เดือน 5 (ประมาณเดือนเมษายน)บริเวณวัดไร่ขิง อ.สามพราน

                น่าแวะ น่าสนใจ

                ช่วงงานนมัสการปิดทองหลวงพ่อฯ เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ทางวัดจึงจัดให้ประชาชนได้สรงน้ำ พร้อมทั้งปิดทององค์หลวงพ่อภายในโบสถ์ ในบริเวณงานมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าจากหน่วยงานต่างๆ และการประกวดพืชผลทางการเกษตร เช่น ส้มโอ องุ่น ขนุน มะม่วงเป็นต้น ส่วนตอนกลางคืนมีมหรสพ เช่น ภาพยนตร์ ลิเก สร้างความบันเทิงแก่ผู้มาร่วมงาน

เทศกาลอาหาร ผลไม้ และของดีนครปฐม

นครปฐมเป็นจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลไม้และอาหารการกิน ปี พ.ศ.2530 ซึ่งเป็นปีท่องเที่ยวไทย ทางจังหวัดจึงริเริ่มจัดงานเทศกาลอาหาร ผลไม้ และของดีนครปฐมขึ้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวและส่งเสริมเศรษฐกิจของจังหวัดอีกทางหนึ่ง และจัดต่อเนื่องกันมาทุกปี

                วันที่จัดงาน จัดเป็นเวลา 7 วัน งานวันแรกเริ่มในวันเที่ยวของเทศกาลตรุษจีน ณ บริเวณลานหน้าองค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม

                น่าแวะ น่าสนใจ

                ภายในงานจำหน่ายอาหารหลากหลายชนิด โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตร เช่น ส้มโอ องุ่น มะพร้าวน้ำหอม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีของกินคู่เมืองนครปฐม ทั้งข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ขาวหลาม รวมถึงของฝากอย่างกุนเชียง หมูแผ่น หมูหย็อง หรือน้ำพริก

                นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมงานจะได้ร่วมกิจกรรมอีกหลากหลาย ดังเช่นชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การประกวดกลองยาว การประกวดนางสาวนครปฐม และร่วมเชียร์ไปกับการแข่งขันกินข้าวหลามกินส้มโอ

งานประเพณีสงกรานต์ จ.สงขลา

งานประเพณีสงกรานต์ จ.สงขลา เป็นงานสำคัญ และจัดกับแทบทุกจังหวัดของประเทศไทย

วันที่จัดงาน  วันที่ 6-15 เมษายน บริเวณสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ถ.นิพัทธ์อุทิศ 1


น่าสนใจ น่าแวะ
ภายในงานมีการทำบุญรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือหลังจากนั้นจะเป็นการเล่นสาดน้ำ ที่พิเศษกว่าที่อื่นคือมีชาวมาเลเซียและสิงคโปร์มาร่วมสนุกด้วย นอกจากนี้มีขบวนแห่นางสงกรานต์ มหรสพศิลปวัฒนธรรม และการละเล่นของภาคใต้ เช่น กีฬาชนวัว ซึ่งหาชมได้ไม่ง่ายนัก

การท่องเที่ยวเชิงเกษตร

เราจะพาคุณไปล่องเรือเที่ยวทะเลสาบ ชมวิถีชีวิตเกาะยออีกด้วยนะคะ

-ค่าบริการ 130 บาทต่อหนึ่งคนนะคะ

-ติดต่อสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยอ หมู่ 9 ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา 90100 โทร. 0-7445-0433, 0-1896-2335

                ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะยอมีอาชีพที่เกี่ยวเนื่องกับการประมงในทะเลสาบ การทำสวนผลไม้ที่เรียกว่าสวนสมรม  ตลอดจนงานหัตถกรรมต่างๆ เช่น ผ้าทอเกาะยอ เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นวิถีชีวิตที่น่าชม เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงเกษตรชมวิถีชีวิตชาวบ้าน

                ตั้งอยู่ที่ สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยอ ต.เกาะยอ อ.เมือง

                การเดินทาง หากนำส่วนตัวไป ให้เริ่มจาก อ.เมือง ใช้ทางหลวงหมายเลข 407 ไปทาง อ.หาดใหญ่ เมื่อถึงห้าแยกเกาะยอให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 408 ข้ามสะพานติณสูลานนท์ ตรงไปจนถึงสามแยกบริเวณโรงเรียนวัดแหลมพ้อ เลี้ยวซ้ายผ่านเกาะยออินน์ไปประมาณ 400 เมตร จะพบสามแยกให้เลี้ยวขวา และเมื่อถึงสามแยกบริเวณโรงเรียนวัดท้ายยอ เลี้ยวซ้ายไปเล็กน้อยจะเห็นสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลอยู่ทางขวามือใกล้ๆ สามแยก

                การเดินทาง หากไปรถประจำทาง ให้ขึ้นรถสองแถวสายสงขลา-สทิงพระ ลงที่ตลาดเก่าเกาะยอ แล้วต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยอ

                น่าสนใจ น่าแวะ

                ๐ล่องเรือเที่ยวทะเลสาบสงขลา ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยอจัดบริการท่องเที่ยวทางเรือในทะเลสาบสงขลา นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมการเลี้ยงปลาและหาปลาในทะเลสาบสงขลาแล้วยังจะได้แวะชมสถานที่สำคัญบริเวณชายฝั่ง เรือที่ใช้โดยสารเป็นเรือหางยาว นั่งได้ประมาณห้าหกคน มีวิทยากรบรรยายให้ความรู้ตลอดการเดินทาง จุดแวะชมต่างๆ มีดังนี้        

                -สวนสมรม ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นเกาะ มีภูมิอากาศเอื้อต่อการเพาะปลูกผลไม้ ทำให้เกาะยอกลายเป็นแหล่งทำสวนผลไม้ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด จะมีผลไม้ออกผลหมุนเวียนทั้งปี ทั้งเงาะ ทุเรียน มังคุด ลงสาด กระท้อน ละมุด โดยเฉพาะจำปาดะเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อ การปลูกผลไม้หลายอย่างคละกันในสวนแบบนี้เรียกว่า สวนสมรม ในช่วงผลไม้ออกจะมีชาวสวนนำมาจำหน่ายริมทาง

                -บ้านไม้เก่าแก่ จะได้เห็นบ้านไม้เก่าแก่ที่มีคุณค่าและความงาม บางหลังทำจกกระเบื้องเกาะยอ ซึ่งเป็นกระเบื้อดินเผาทำจากดินโคลนในทะเลสาบสงขลา ในอดีตกระเบื้องเกาะยอมีชื่อเสียงมาก เป็นสินค้าส่งออกทั่วทั้งภาคใต้

                -กระชังเลี้ยงปลากะพงขาว เกาะยอได้ชื่อว่าเป็นแหล่งเลี้ยงปลากะพงขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เพราะมีระบบนิเวศที่เหมาะกับการเติบโตของปลา ปลากะพงขาวเป็นปลาสองน้ำ จะวางไข่ในน้ำเค็มแล้วเจริญเติบโตในน้ำจืด ทะเลสาบสงขลาก็เป็นทะเลสองน้ำ โดยในช่วงปีหนึ่งจะเป็นน้ำเค็ม 7 เดือน น้ำจืด 5 เดือน จึงเหมาะแก่การเติบโตของปลากะพงขาว ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 2 ปีก็จับกินได้ ตัวหนึ่งมีน้ำหนักราว 2-5 กิโลกรัม ปัจจุบันรอบทะเลสาบสงขลามีการเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังถึง 500 กระชัง

                -แหล่งทอผ้าเกาะยอ เกาะยอเป็นแหล่งทอผ้าแหล่งใหญ่สืบทอดฝีมือกันมาหลายรุ่น ปัจจุบันมีทั้งการทออยู่กับบ้านและจัดตั้งเป็นกลุ่ม เช่น กลุ่มราชวัตรแสงส่องหล้าที่ 1 ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงเรียนวัดแหลมพ้อ เป็นการรวมตัวของชาวบ้าน 30 คนที่มีฝีมือในการทอผ้า และจัดจำหน่ายเอง ในอดีตช่วงปลายสมัยอยุธยาชาวบ้านจะทอผ้าใช้เอง ด้วยวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น อย่างฝ้ายก็ปลูกเอง สีที่ใช้ย้อมฝ้ายเป็นสีจากธรรมชาติ มีการทอเป็นลายยกดอก เรียกว่าลายก้านแย่ง ต่อมาเจ้าเมืองสงขลาได้นำผ้าเกาะยอที่ชนะการประกวดขึ้นทูลเก้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อคราวเสด็จประพาสเมืองสงขลา พระองค์ทรงพอพระราชหฤทัยมาก และได้พระราชทานนามลวดลายนั้นว่า ลายราชวัตร 2475

                ปัจจุบันผ้าทอเกาะยอเปลี่ยนวัสดุจากใยฝ้ายมาเป็นโพลีเอสเตอร์ มีลวดลายมากถึง 80 ลาย ลายที่นิยมกันมากมีประมาณ 30 ลาย เช่น ลายดอกพิกุล ลายราชวัตร ลายลูกแก้ว ลายรสสุคนธ์ ลายดอกรัก ลายผกากรอง เป็นต้น ผ้าทอเกาะยอนอกจากจะมีลวดลายที่สวยงามแล้ว ยังมีการทอที่ประณีตซึ่งเรียกว่าตะกอ มีตั้งแต่การทอแบบสี่ตะกอ หกตะกอ แปดตะกอ ยิ่งตะกอมากก็ยิ่งมีลวดลายที่ละเอียดซับซ้อนมากขึ้น สนนราคาก็แพงขึ้นไปด้วย