Wednesday, March 28, 2012

งานประเพณีสงกรานต์ จ.สงขลา



งานประเพณีสงกรานต์ จ.สงขลา เป็นงานสำคัญ และจัดกับแทบทุกจังหวัดของประเทศไทย

วันที่จัดงาน  วันที่ 6-15 เมษายน บริเวณสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ถ.นิพัทธ์อุทิศ 1


น่าสนใจ น่าแวะ
ภายในงานมีการทำบุญรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือหลังจากนั้นจะเป็นการเล่นสาดน้ำ ที่พิเศษกว่าที่อื่นคือมีชาวมาเลเซียและสิงคโปร์มาร่วมสนุกด้วย นอกจากนี้มีขบวนแห่นางสงกรานต์ มหรสพศิลปวัฒนธรรม และการละเล่นของภาคใต้ เช่น กีฬาชนวัว ซึ่งหาชมได้ไม่ง่ายนัก

Saturday, March 24, 2012

การท่องเที่ยวเชิงเกษตร


เราจะพาคุณไปล่องเรือเที่ยวทะเลสาบ ชมวิถีชีวิตเกาะยออีกด้วยนะคะ
-ค่าบริการ 130 บาทต่อหนึ่งคนนะคะ
-ติดต่อสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยอ หมู่ 9 ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา 90100 โทร. 0-7445-0433, 0-1896-2335
                ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะยอมีอาชีพที่เกี่ยวเนื่องกับการประมงในทะเลสาบ การทำสวนผลไม้ที่เรียกว่าสวนสมรม  ตลอดจนงานหัตถกรรมต่างๆ เช่น ผ้าทอเกาะยอ เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นวิถีชีวิตที่น่าชม เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงเกษตรชมวิถีชีวิตชาวบ้าน

                ตั้งอยู่ที่ สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยอ ต.เกาะยอ อ.เมือง
                การเดินทาง หากนำส่วนตัวไป ให้เริ่มจาก อ.เมือง ใช้ทางหลวงหมายเลข 407 ไปทาง อ.หาดใหญ่ เมื่อถึงห้าแยกเกาะยอให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 408 ข้ามสะพานติณสูลานนท์ ตรงไปจนถึงสามแยกบริเวณโรงเรียนวัดแหลมพ้อ เลี้ยวซ้ายผ่านเกาะยออินน์ไปประมาณ 400 เมตร จะพบสามแยกให้เลี้ยวขวา และเมื่อถึงสามแยกบริเวณโรงเรียนวัดท้ายยอ เลี้ยวซ้ายไปเล็กน้อยจะเห็นสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลอยู่ทางขวามือใกล้ๆ สามแยก

                การเดินทาง หากไปรถประจำทาง ให้ขึ้นรถสองแถวสายสงขลา-สทิงพระ ลงที่ตลาดเก่าเกาะยอ แล้วต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยอ

                น่าสนใจ น่าแวะ
                ๐ล่องเรือเที่ยวทะเลสาบสงขลา ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยอจัดบริการท่องเที่ยวทางเรือในทะเลสาบสงขลา นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมการเลี้ยงปลาและหาปลาในทะเลสาบสงขลาแล้วยังจะได้แวะชมสถานที่สำคัญบริเวณชายฝั่ง เรือที่ใช้โดยสารเป็นเรือหางยาว นั่งได้ประมาณห้าหกคน มีวิทยากรบรรยายให้ความรู้ตลอดการเดินทาง จุดแวะชมต่างๆ มีดังนี้        

                -สวนสมรม ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นเกาะ มีภูมิอากาศเอื้อต่อการเพาะปลูกผลไม้ ทำให้เกาะยอกลายเป็นแหล่งทำสวนผลไม้ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด จะมีผลไม้ออกผลหมุนเวียนทั้งปี ทั้งเงาะ ทุเรียน มังคุด ลงสาด กระท้อน ละมุด โดยเฉพาะจำปาดะเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อ การปลูกผลไม้หลายอย่างคละกันในสวนแบบนี้เรียกว่า สวนสมรม ในช่วงผลไม้ออกจะมีชาวสวนนำมาจำหน่ายริมทาง

                -บ้านไม้เก่าแก่ จะได้เห็นบ้านไม้เก่าแก่ที่มีคุณค่าและความงาม บางหลังทำจกกระเบื้องเกาะยอ ซึ่งเป็นกระเบื้อดินเผาทำจากดินโคลนในทะเลสาบสงขลา ในอดีตกระเบื้องเกาะยอมีชื่อเสียงมาก เป็นสินค้าส่งออกทั่วทั้งภาคใต้
                -กระชังเลี้ยงปลากะพงขาว เกาะยอได้ชื่อว่าเป็นแหล่งเลี้ยงปลากะพงขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เพราะมีระบบนิเวศที่เหมาะกับการเติบโตของปลา ปลากะพงขาวเป็นปลาสองน้ำ จะวางไข่ในน้ำเค็มแล้วเจริญเติบโตในน้ำจืด ทะเลสาบสงขลาก็เป็นทะเลสองน้ำ โดยในช่วงปีหนึ่งจะเป็นน้ำเค็ม 7 เดือน น้ำจืด 5 เดือน จึงเหมาะแก่การเติบโตของปลากะพงขาว ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 2 ปีก็จับกินได้ ตัวหนึ่งมีน้ำหนักราว 2-5 กิโลกรัม ปัจจุบันรอบทะเลสาบสงขลามีการเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังถึง 500 กระชัง

                -แหล่งทอผ้าเกาะยอ เกาะยอเป็นแหล่งทอผ้าแหล่งใหญ่สืบทอดฝีมือกันมาหลายรุ่น ปัจจุบันมีทั้งการทออยู่กับบ้านและจัดตั้งเป็นกลุ่ม เช่น กลุ่มราชวัตรแสงส่องหล้าที่ 1 ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงเรียนวัดแหลมพ้อ เป็นการรวมตัวของชาวบ้าน 30 คนที่มีฝีมือในการทอผ้า และจัดจำหน่ายเอง ในอดีตช่วงปลายสมัยอยุธยาชาวบ้านจะทอผ้าใช้เอง ด้วยวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น อย่างฝ้ายก็ปลูกเอง สีที่ใช้ย้อมฝ้ายเป็นสีจากธรรมชาติ มีการทอเป็นลายยกดอก เรียกว่าลายก้านแย่ง ต่อมาเจ้าเมืองสงขลาได้นำผ้าเกาะยอที่ชนะการประกวดขึ้นทูลเก้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อคราวเสด็จประพาสเมืองสงขลา พระองค์ทรงพอพระราชหฤทัยมาก และได้พระราชทานนามลวดลายนั้นว่า ลายราชวัตร 2475

                ปัจจุบันผ้าทอเกาะยอเปลี่ยนวัสดุจากใยฝ้ายมาเป็นโพลีเอสเตอร์ มีลวดลายมากถึง 80 ลาย ลายที่นิยมกันมากมีประมาณ 30 ลาย เช่น ลายดอกพิกุล ลายราชวัตร ลายลูกแก้ว ลายรสสุคนธ์ ลายดอกรัก ลายผกากรอง เป็นต้น ผ้าทอเกาะยอนอกจากจะมีลวดลายที่สวยงามแล้ว ยังมีการทอที่ประณีตซึ่งเรียกว่าตะกอ มีตั้งแต่การทอแบบสี่ตะกอ หกตะกอ แปดตะกอ ยิ่งตะกอมากก็ยิ่งมีลวดลายที่ละเอียดซับซ้อนมากขึ้น สนนราคาก็แพงขึ้นไปด้วย